วันนี้ (2 มิ.ย.) ร.ต.อ.นราศักดิ์ วงค์โปทา รองสารวัตรสอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งเมื่อเวลา 06.30 น. ว่า มีอุบัติเหตุรถชนคนข้ามถนนเสียชีวิต บริเวณสัญญาณไฟจุดกลับรถวัดสน ถนนสุขสวัสดิ์ ปากซอยสุขสวัสดิ์ 35 หรือซอยวัดสน จึงได้ประสานแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช พร้อมมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุบริเวณถนนสุขสวัสดิ์ พบร่างพระภิกษุสงฆ์นอนมรณภาพลักษณะนอนหงายหน้า ทราบชื่อต่อมา ชื่อพระจรัญ สุขเกษม อายุ 70 ปี เป็นพระลูกวัด วัดสน สภาพมีบาดแผลฉีกขาดที่ศีรษะด้านหลัง และแขนซ้ายหักผิดรูป พบบาตรพระตกอยู่พร้อมย่ามพระกระจายอยู่ที่พื้นถนน ห่างไปประมาณ 30 เมตร พบชิ้นส่วนรถยนต์ซึ่งเป็นกระจังหน้า ตรวจสอบแล้วน่าจะเป็นยี่ห้อมิตซูบิชิ สีดำ แต่ไม่พบรถคันก่อเหตุ คาดว่าหลบหนีไปก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่จะไปถึง
ทั้งนี้ นายเฉลิมชัย สุขเกษม อายุ 47 ปี ลูกชาย พร้อมด้วย น.ส.อังคนา สุขเกษม อายุ 26 ปี หลานสาว เดินทางมาที่เกิดเหตุ ถึงกับเป็นลมร้องไห้เมื่อเห็นสภาพศพนอนเสียชีวิตอยู่กลางถนน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมแพทย์นิติเวชจึงให้มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำร่างพระภิกษุสงฆ์ที่มรณภาพนำส่งสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลศิริราช เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการตาย ส่วนรถที่ชนแล้วหลบหนี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบถามพยานในที่เกิดเหตุ และจะติดตามไล่ดูกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุ เพื่อติดตามรถคันก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุบริเวณถนนสุขสวัสดิ์ พบร่างพระภิกษุสงฆ์นอนมรณภาพลักษณะนอนหงายหน้า ทราบชื่อต่อมา ชื่อพระจรัญ สุขเกษม อายุ 70 ปี เป็นพระลูกวัด วัดสน สภาพมีบาดแผลฉีกขาดที่ศีรษะด้านหลัง และแขนซ้ายหักผิดรูป พบบาตรพระตกอยู่พร้อมย่ามพระกระจายอยู่ที่พื้นถนน ห่างไปประมาณ 30 เมตร พบชิ้นส่วนรถยนต์ซึ่งเป็นกระจังหน้า ตรวจสอบแล้วน่าจะเป็นยี่ห้อมิตซูบิชิ สีดำ แต่ไม่พบรถคันก่อเหตุ คาดว่าหลบหนีไปก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่จะไปถึง
ทั้งนี้ นายเฉลิมชัย สุขเกษม อายุ 47 ปี ลูกชาย พร้อมด้วย น.ส.อังคนา สุขเกษม อายุ 26 ปี หลานสาว เดินทางมาที่เกิดเหตุ ถึงกับเป็นลมร้องไห้เมื่อเห็นสภาพศพนอนเสียชีวิตอยู่กลางถนน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมแพทย์นิติเวชจึงให้มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำร่างพระภิกษุสงฆ์ที่มรณภาพนำส่งสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลศิริราช เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการตาย ส่วนรถที่ชนแล้วหลบหนี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบถามพยานในที่เกิดเหตุ และจะติดตามไล่ดูกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุ เพื่อติดตามรถคันก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป