วันนี้ (28 พ.ค.) ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดที่ยังรุนแรงนั้น ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ในฐานะหน่วยงานที่ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี ได้เล็งเห็นความสำคัญเรื่องการกระจายวัคซีน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดให้เร็วที่สุด
ทั้งนี้ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้รับความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรีให้เป็นตัวแทนประเทศไทยในการจัดหาวัคซีนทางเลือกให้แก่ประชาชน โดยร่วมกับ อย. และ สธ. ติดต่อขอซื้อจากซิโนฟาร์มโดยตรง และให้บริษัท ไบโอจีนีเทค จำกัด เป็นผู้นำเข้าวัคซีนซิโนฟาร์ม ตั้งแต่การยื่นเอกสารขออนุญาตจาก อย. ตลอดจนการขนส่งวัคซีน โดยเบื้องต้นคาดว่าจะนำเข้ามาราว 1 ล้านโดส ภายในเดือนมิถุนายนนี้ ส่วนเดือนถัดไป อาจให้บริษัท ไบโอจีนีเทค หารือและต่อรองกับบริษัทผู้ผลิตต้นทางอีกทีหนึ่ง
ส่วนการดำเนินการจัดสรรวัคซีนซิโนฟาร์มนั้น จะหารือร่วมกับ สธ. เพื่อกระจายวัคซีนให้แก่หน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชนที่สนใจจัดซื้อพ่วงประกันวัคซีนโควิด ซึ่งเริ่มมีหน่วยงานรัฐและเอกชนติดต่อขอซื้อวัคซีนแล้ว เช่น สภาอุตสาหกรรม ปตท. โดยจะพิจารณาการฉีดให้แก่องค์กรผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หรือพวกกลุ่มโรงแรม เพื่ออุดช่องว่างให้กิจการภายในประเทศสามารถเดินต่อไปได้
สำหรับราคายังอยู่ระหว่างการตกลง ซึ่งต้องคำนึงถึงต้นทุน ค่าขนส่ง และการจัดเก็บวัคซีนอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งขอยืนยันว่าราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ไม่ค้ากำไรอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้รับความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรีให้เป็นตัวแทนประเทศไทยในการจัดหาวัคซีนทางเลือกให้แก่ประชาชน โดยร่วมกับ อย. และ สธ. ติดต่อขอซื้อจากซิโนฟาร์มโดยตรง และให้บริษัท ไบโอจีนีเทค จำกัด เป็นผู้นำเข้าวัคซีนซิโนฟาร์ม ตั้งแต่การยื่นเอกสารขออนุญาตจาก อย. ตลอดจนการขนส่งวัคซีน โดยเบื้องต้นคาดว่าจะนำเข้ามาราว 1 ล้านโดส ภายในเดือนมิถุนายนนี้ ส่วนเดือนถัดไป อาจให้บริษัท ไบโอจีนีเทค หารือและต่อรองกับบริษัทผู้ผลิตต้นทางอีกทีหนึ่ง
ส่วนการดำเนินการจัดสรรวัคซีนซิโนฟาร์มนั้น จะหารือร่วมกับ สธ. เพื่อกระจายวัคซีนให้แก่หน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชนที่สนใจจัดซื้อพ่วงประกันวัคซีนโควิด ซึ่งเริ่มมีหน่วยงานรัฐและเอกชนติดต่อขอซื้อวัคซีนแล้ว เช่น สภาอุตสาหกรรม ปตท. โดยจะพิจารณาการฉีดให้แก่องค์กรผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หรือพวกกลุ่มโรงแรม เพื่ออุดช่องว่างให้กิจการภายในประเทศสามารถเดินต่อไปได้
สำหรับราคายังอยู่ระหว่างการตกลง ซึ่งต้องคำนึงถึงต้นทุน ค่าขนส่ง และการจัดเก็บวัคซีนอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งขอยืนยันว่าราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ไม่ค้ากำไรอย่างแน่นอน