นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการสิ่งก่อสร้างรุกล้ำลำน้ำสาธารณะ ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ มีเป้าหมายเพื่อจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาสิ่งก่อสร้างรุกล้ำลำน้ำสาธารณะในคลองลาดพร้าวและคลองเปรมประชากร โดยเร่งรัดให้จัดระเบียบ และแก้ไขปัญหาชุมชนแออัดที่รุกล้ำลำน้ำสาธารณะทั้ง 2 คลอง เพื่อใช้เป็นทางระบายน้ำ การสัญจรทางน้ำ และพัฒนาพื้นที่ริมคลองเพื่อใช้ประโยชน์เป็นทางจักรยาน ตลาดน้ำ และการท่องเที่ยวนั้น
แต่ปรากฏว่าในพื้นที่คลองเปรมประชากรบริเวณชุมชนวัดรังสิต มีการไล่รื้อชาวชุมชนที่อยู่ริมคลองมากว่า 100 ปีแล้วให้ออกไป โดยกรมธนารักษ์ได้นำที่ดังกล่าวมาให้เช่า โดยมีการถมคลองที่มีความกว้างกว่า 50 เมตร ให้เหลือเพียง 20 กว่าเมตรเท่านั้น ส่วนที่ถมได้เอามาก่อสร้างบ้านมั่นคง โดยการบังคับให้ชาวบ้านที่รื้อถอนบ้านของตนออกไปนั้นมาเข้าร่วมโครงการบ้านมั่นคง โดยทำสัญญาเช่ากับกรมธนารักษ์ 30 ปี ทำให้ชาวบ้านที่ไม่เคยมีหนี้สินต้องมาเป็นหนี้เมื่อยามแก่ชราในระยะยาว เพราะต้องไปกู้เงินมาสร้างบ้านมั่นคงขนาด 5x7 เมตรและผ่อนชำระค่าบ้านประมาณ 3,000 กว่าบาทไม่รวมค่าเช่าที่ดินอีกเป็นเวลา 20 ปี และเมื่อครบสัญญาเช่า 30 ปีแล้ว ไม่มีใครรู้ได้ว่ากรมธนารักษ์จะขับไล่หรือไม่ต่อสัญญาเช่าอีกหรือไม่
แต่ที่น่าสงสัยคือ คลองเปรมประชากรถือว่าเป็นอสังหาริมทรัพย์อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้หรือสงวนไว้ เพื่อประโยชน์ของพลเมืองใช้ร่วมกัน ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1304(2) เป็นคลองที่มีวัตถุประสงค์คือใช้เชื่อมแม่น้ำเจ้าพระยาให้สั้นเพื่อประโยชน์ในการคมนาคมทางน้ำของประชาชน และเพื่อการระบายน้ำในคล่องตัวยามฤดูน้ำหลาก และเป็นทรัพย์เพื่อสาธารณประโยชน์ ตาม ป.อ.มาตรา 360 แต่รัฐบาลกลับปล่อยให้กรมธนารักษ์เข้าครอบครองแล้วนำไปปล่อยเช่า แล้วอนุญาตให้มีการถมคลองไปกว่า 30 เมตรเพื่อสร้างบ้านมั่นคงได้อย่างไร เพราะทำให้คลองดังกล่าวแคบลง ทำให้การระบายน้ำเกิดปัญหาแน่นอนในอนาคตอันใกล้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการย้อนแย้งต่อนโยบายการบริหารจัดการสิ่งก่อสร้างรุกล้ำลำน้ำสาธารณะ เพื่อการระบายน้ำ การสัญจรทางน้ำ ฯลฯ โดยชัดแจ้ง
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย และชาวชุมชนรังสิต ชาวตำบลหลักหก ปทุมธานี และชาวสีกัน เขตดอนเมือง จึงไม่อาจปล่อยให้รัฐบาล ใช้อำนาจอย่างย่ามใจ กระทำการอันขัดต่อหลักกฎหมายหลายฉบับได้ จึงรวมตัวกันนำความไปยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง ในวันศุกร์ที่ 28 พ.ค.64 เวลา 10.00 น. ถ.แจ้งวัฒนะ เพื่อขอให้ศาลสั่งให้รื้อถอนการถมดิน และบ้านมั่นคงดังกล่าวออกไปจากคลองเปรมประชากรเสีย และหลังจากนี้จะนำความไปร้อง ป.ป.ช.เอาผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงต่อ พล.อ.ประวิตร ต่อไป