นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า ตามที่ได้ปรากฏข่าวอาวุธปืนของทางราชการมีการสูญหายเกิดขึ้นในพื้นที่ของอำเภอเมืองนราธิวาส ซึ่งเป็นกองร้อย อส. สูญหาย 28 กระบอกนั้น เหตุการณ์ปืนหายดังกล่าว แยกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรก ได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ขึ้นมา 1 คณะ โดยมีรองผู้ว่าราชการ ฝ่ายความมั่นคง, รอง ผอ.รมน. ฝ่ายทหาร, รองผู้บังคับการตำรวจ และปลัดจังหวัด รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทางกฎหมาย 1 ชุด เพื่อเป็นคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงว่าการสูญหายของปืนเกิดขึ้นเมื่อไหร่ อย่างไร เบื้องต้นที่ได้มีการตรวจสอบจากอำเภอเมือง ทราบว่าปืนทั้ง 28 กระบอก ไม่ได้หายพร้อมกันในคราวเดียว
ทั้งนี้ ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงตั้งแต่ปี 2555 ว่าเป็นอย่างไร และตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าการสูญหายนั้น สูญหายตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน มีช่วงใดบ้าง หายไปกี่กระบอก และใครเป็นผู้ต้องรับผิดชอบในระดับใดบ้าง แยกเป็นเบื้องต้นว่าเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมปืนในแต่ละส่วนมีใครที่บกพร่อง ละเลย ละเว้น หรือมีใครที่เกี่ยวข้องทำให้ปืนหายไป ต้องแยกออกเป็นหลายประเด็น แยกหลายส่วน ต้องมีการสอบสวน ทั้งทางคดีอาญา วินัย และทางแพ่ง ที่ต้องดำเนินการพร้อมกันทั้งหมด กำหนดประเด็นไว้ให้กับทีมงานของคณะกรรมการที่จะเป็นผู้สอบข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งภายใน 7 วัน จะได้ข้อยุติบางประการว่า ปืนที่หายไปตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา หายได้อย่างไร และใครต้องรับผิดชอบอย่างไร และปืนทั้ง 28 กระบอกไปอยู่ที่ใคร ต้องสืบสวนขยายผลร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป
ทั้งนี้ ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงตั้งแต่ปี 2555 ว่าเป็นอย่างไร และตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าการสูญหายนั้น สูญหายตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน มีช่วงใดบ้าง หายไปกี่กระบอก และใครเป็นผู้ต้องรับผิดชอบในระดับใดบ้าง แยกเป็นเบื้องต้นว่าเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมปืนในแต่ละส่วนมีใครที่บกพร่อง ละเลย ละเว้น หรือมีใครที่เกี่ยวข้องทำให้ปืนหายไป ต้องแยกออกเป็นหลายประเด็น แยกหลายส่วน ต้องมีการสอบสวน ทั้งทางคดีอาญา วินัย และทางแพ่ง ที่ต้องดำเนินการพร้อมกันทั้งหมด กำหนดประเด็นไว้ให้กับทีมงานของคณะกรรมการที่จะเป็นผู้สอบข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งภายใน 7 วัน จะได้ข้อยุติบางประการว่า ปืนที่หายไปตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา หายได้อย่างไร และใครต้องรับผิดชอบอย่างไร และปืนทั้ง 28 กระบอกไปอยู่ที่ใคร ต้องสืบสวนขยายผลร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป