xs
xsm
sm
md
lg

สภาพัฒน์ชี้"กัญชา"มีโอกาสเป็นพืช ศก.ใหม่ของไทย แต่ต้องควบคุมอย่างเหมาะสม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ กล่าวถึงโอกาสของกัญชาในการเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ ว่า มีการคาดการณ์ว่าในปี 2564 ตลาดกัญชาเฉพาะกัญชาเพื่อการแพทย์ของไทย จะมีมูลค่าราว 3,600-7,200 ล้านบาท และการปลดล็อกกัญชา ทำให้บางชิ้นส่วนของกัญชาสามารถใช้ในการผลิตสินค้าเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะสร้างมูลค่าให้กับสินค้าได้เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ยังมีประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญ คือการใช้กัญชาในทางการแพทย์และการพาณิชย์ ยังขาดการกำหนดสัดส่วนระหว่างกันอย่างชัดเจน รวมถึงการควบคุมปริมาณสารสกัดที่เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยเฉพาะอาหาร แนวทางการป้องกันไม่ให้เยาวชนเข้าถึง และการสร้างการรับรู้และความเข้าใจในการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาที่ถูกต้อง ซึ่งทำให้การปลดล็อกกัญชาในปัจจุบันยังคงมีความจำเป็นต้องมีแนวทางรองรับการดำเนินการด้านต่างๆ อีกหลายด้าน อาทิ การควบคุม/กำหนดรูปแบบการผลิตและราคา เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการผลิตสินค้าทางการแพทย์ ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยและประชาชนได้รับประโยชน์จากการปลดล็อกให้มากที่สุด การกำหนดระดับสาร THC และ CBD ที่เหมาะสมในการเป็นส่วนประกอบของสินค้าแต่ละประเภท และกำหนดฉลากให้ชัดเจน กำหนดอายุของผู้ซื้อและผู้ใช้ และการสร้างความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องในการใช้กัญชาทางการแพทย์แก่ประชาชน

เลขาธิการสภาพัฒน๋ กล่าวว่า แม้ว่าประโยชน์ของกัญชาจะมีมาก และอาจสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศในอนาคต แต่การทำให้ประเทศและประชาชนได้ประโยชน์สูงที่สุด จะต้องให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทั้งห่วงโซ่อุปทานอย่างเหมาะสมตั้งแต่การอนุญาตปลูก แปรรูป ขนส่ง จำหน่าย และการใช้อย่างรอบคอบ โดยต้องมีการควบคุมอย่างเหมาะสม รวมทั้งควรมีการชี้แจงหรือทำความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ประชาชนได้ทราบก่อนตัดสินใจบริโภค อาทิ ข้อดีและข้อเสียของกัญชา ปริมาณการบริโภคที่เหมาะสม พร้อมทั้งกำหนดบทลงโทษที่เหมาะสม หากมีการใช้สารสกัดมาใช้ในสินค้าอุปโภคเกินที่กำหนดในผลิตภัณฑ์