xs
xsm
sm
md
lg

"หมวดเจี๊ยบ"แนะ 12 ข้อควรรู้ก่อนฉีดวัคซีนโควิด จากประสบการณ์ฉีดครบ 2 ครบแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง สมาชิกพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊ก "หมวดเจี๊ยบ Sunisa Divakorndamrong" ระบุว่า วันนี้ เจี๊ยบมีข้อควรรู้ 12 ข้อ ก่อนการฉีดวัคซีนโควิด มาฝากทุกท่าน จากประสบการณ์ที่เจี๊ยบได้รับการฉีดวัคซีนโควิดมาแล้วจนครบ 2 เข็ม โดยสาเหตุที่เจี๊ยบต้องฉีดวัคซีนโควิด ก็เพราะ เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2564 เจี๊ยบไปร่วมงานวันเกิดพรรคภูมิใจไทย ซึ่งในงานนั้น มีรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยป่วยเป็นโควิด เพียงแต่ว่าเจี๊ยบไม่ได้ติดเชื้อโควิด

วันนี้ เจี๊ยบจะเล่าประสบการณ์ของตัวเองและคนใกล้ตัวเรื่องการฉีดวัคซีนโควิดให้ฟัง วัคซีนตัวที่เจี๊ยบฉีด คือ "ซิโนแวค" ค่ะ ส่วนคนที่ไปด้วยกันฉีด "แอสตราซิเนก้า"

ข้อควรรู้ 12 ข้อ ที่เจี๊ยบรวบรวมไว้สำหรับผู้ที่กำลังจะไปฉีดวัคซีนโควิด มีดังนี้

1. พกบัตรประชาชนไปด้วย
เพราะเมื่อถึงจุดลงทะเบียนเจ้าหน้าที่จะสแกนบัตรประชาชนเพื่อ print เอกสารที่เป็นเหมือนบัตรประจำตัวคนไข้ ซึ่งคุณต้องพกติดตัวจนกว่าจะถึงขั้นตอนฉีดวัคซีน

2.ด่านถัดไป คือ การชั่งน้ำหนักและวัดความดัน

3. ก่อนถูกฉีดยา คุณจะโดนซักประวัติ ณ ด่านที่สาม ซึ่งคุณอาจถูกปฏิเสธไม่ฉีดวัคซีนให้ ถ้าคุณตอบว่า คุณจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงโควิด หรือเคยมีประวัติสัมผัสกับบุคคลที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงในช่วง 14 วัน ที่ผ่านมา หรือถ้าตัวคุณเองกำลังมีไข้สูง เพราะถ้าคุณมีเชื้อโควิดในตัวแล้วมาฉีดวัคซีน อาการอาจจะหนักขึ้นค่ะ อันนี้คุณหมอบอก

4. ในขั้นตอนการฉีดยา คุณควรสวมเสื้อแขนสั้น จะได้ไม่เขินที่ต้องเปลื้องผ้าในที่สาธารณะต่อหน้าคนนับร้อย

5. หลังฉีดวัคซีนเสร็จ คุณจะต้องเข้าคิวเพื่อรับบัตรนัดฉีดยาเข็มที่สอง

6. ฉีดยาเสร็จแล้ว คุณยังกลับบ้านไม่ได้ทันทีนะคะ เพราะต้องนั่งพักเพื่อสังเกตอาการอีก 30 นาที โดยเจ้าหน้าที่ จะ print กระดาษแปะหน้าอกให้คุณ เพื่อบอกเวลาที่คุณจะกลับบ้านได้ ถ้าคุณไม่อยากเสียเวลา ขอแนะนำให้คุณจำเวลาตอนโดนฉีดยา แล้วบวกเวลาเองไป 30 นาที จะได้รู้ว่าควรกลับบ้านตอนไหน เพราะกว่าคุณจะได้รับแผ่นป้ายบอกเวลา คุณต้องเข้าคิวอีกหลายนาที

7. ถ้าคุณมาฉีดวัคซีนเป็นเข็มที่สอง ในวันนั้นคุณจะได้รับใบรับรอง หรือที่เรียกว่า พาสปอร์ตวัคซีนกลับบ้านด้วยเลยค่ะ
ซึ่งหากคุณต้องการให้ใบรับรองนั้น มีหมายเลขหนังสือเดินทางปรากฎอยู่ด้วย คุณก็ต้องแจ้งเลขที่หนังสือเดินทางให้เจ้าหน้าที่ทราบตั้งแต่แรกที่จุดลงทะเบียน มันจึงจะปรากฏในใบรับรองการฉีดวัคซีนตอนนั้นเลย ไม่งั้นคุณต้องกลับมาทำเอกสารเพิ่มเติมที่กระทรวงสาธารณสุขใหม่ในภายหลังอีก

8. ถ้าคุณมีอาการไม่ดี เค้าจะมีเตียงนอนให้คุณ

9. ก่อนกลับบ้าน อย่าลืมโหลดแอพ"สบายดีบอต" เพราะอีกหน่อย คุณจะสามารถกดดูใบรับรองการฉีดวัคซีนหรือวัคซีนพาสปอร์ตได้ในมือถือคุณ

10. สำหรับอาการหลังฉีดซิโนแวค เจี๊ยบไม่รู้สึกเจ็บแผล และไม่มีไข้เลย แต่คนใกล้ตัวที่ไปด้วยกัน เค้าฉีดแอสตราซิเนก้า พอฉีดแล้วมีอาการเจ็บแผล และเป็นไข้หนัก เจ็บคอ และปวดเมื่อยเนื้อตัวไป 4-5 วัน มีอาการน้องๆ โควิดเลย ซึ่งแพทย์บอกว่า คนที่มีการอาการหนักหลังฉีดวัคซีนแอสตร้าฯ นั้น แสดงว่าเค้ามีภูมิคุ้มกันในร่างกายต่ำ ซึ่งถ้าเกิดติดเชื้อโควิดจริงๆ น่าจะอาการหนักพอสมควร เพราะขนาดเค้าโดนฉีดแค่วัคซีนแอสตร้าฯ ซึ่งก็คล้าย ๆ กับฉีดเชื้อโควิดอ่อน ๆ เข้าไปในร่างกายเท่านั้น ยังมีอาการขนาดนี้ ถ้าเค้าได้รับเชื้อจริงๆ จะเป็นหนักขนาดไหน

11. ตอนเจี๊ยบฉีดซิโนแวคเข็มที่สอง เจี๊ยบรู้สึกปวดแขนนิด ๆ บริเวณที่โดนฉีดยา โดยปวดนาน 4-5 วัน แต่ไม่ได้ปวดมากและไม่มีไข้ ส่วนอาการเข็มที่สองของคนใกล้ตัวที่ฉีดแอสตร้าซิเนก้านั้น ขณะนี้ ยังตอบไม่ได้ เพราะยังไม่ถึงเวลาฉีดเข็มสอง เนื่องจากคนที่ฉีดแอสตร้า ซิเนก้า ต้องรออีก 3 เดือน จึงจะได้ฉีดเข็มที่สองค่ะ แต่ซิโนแวค รอแค่เดือนเดียวก็ฉีดเข็มสองได้แล้ว

และข้อควรรู้ข้อสุดท้าย เป็นข้อที่ 12 ก็คือ ตั้งแต่หลังฉีดวัคซีนเสร็จและตอนก่อนเข้านอนในวันที่โดนฉีดยาคุณอาจจะอดกังวลไม่ได้ว่า คุณจะเป็นอะไรรึป่าวน้อ เพราะได้ยินข่าวที่ร้ายๆ มาเยอะ

แต่ถ้าคุณผ่านคืนนั้นไปได้ พอตื่นมาตอนเช้าแล้วพบว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่ คุณก็อาจจะรู้สึกโล่งใจจนอดไม่ได้ที่จะต้องส่งข้อความไปบอกใครต่อใครว่า "Yeh .. I'm still alive.."

รู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก หวังว่าข้อมูลเหล่านี้ จะมีประโยชน์สำหรับคนที่คิดจะไปฉีดวัคซีนโควิด

ส่วนประเด็นที่ว่า วัคซีนมีคุณภาพหรือไม่ เจี๊ยบจะยังไม่ได้พูดถึงในคราวนี้นะคะ เพราะมันจะยาวเกินไป และอยากให้เป็นดุลยพินิจส่วนตัวของแต่ละบุคคล ที่จะต้องตัดสินใจด้วยตัวเองว่าจะฉีดหรือไม่ฉีด

เจี๊ยบก็คงพูดได้แค่ว่าขอให้ทุกท่านศึกษาข้อมูลให้ดีๆ ก่อนตัดสินใจ เพราะสุดท้ายแล้ว คนที่ต้องแบกรับความเสี่ยงและต้องรับผลกระทบจากการตัดสินใจฉีดวัคซีนนั้น ก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่คือตัวของเราเองเท่านั้น มิใช่ "คุณหมอ" หรือ "น้องหมา" แต่อย่างใด ขอบคุณที่อ่านนะคะ