xs
xsm
sm
md
lg

นักวิจัยญี่ปุ่นเผยผลศึกษาไวรัสสายพันธุ์อังกฤษทำให้ผู้ป่วยมีอาการหนักขึ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายแพทย์ซูซูกิ โมโตอิ หัวหน้าศูนย์เฝ้าระวังโรคติดต่อ สถาบันโรคติดต่อแห่งชาติของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า จากการวิจัยโดยวิธีตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 แบบ PCR หรือวิเคราะห์ DNA จากคนไข้กว่า 15,000 คนที่ติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์จากอังกฤษ หรือสายพันธุ์ N501Y จากกลุ่มตัวอย่างที่ทีมวิจัยศึกษารวมทั้งสิ้น 207,000 คน ใช้เวลาศึกษา 3 เดือน จนถึงวันที่ 6 พฤษภาคม ทีมวิจัยพบว่า คนไข้ 475 คน ที่ติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์จากอังกฤษ มีอาการหนักกว่าเดิมถึง 1.4 เท่า เมื่อเทียบกับกลุ่มคนไข้ที่ติดเชื้อไวรัสดั้งเดิม โดยจะมีอาการท้องร่วงรุนแรงกว่า ระบบการทำงานของอวัยวะหลายๆ อย่างล้มเหลวมากกว่า โดยเฉพาะกลุ่มคนไข้อายุ 40-64 ปี มีอัตราการป่วยหนักกว่าเชื้อไวรัสดั้งเดิมในอัตราร้อยละ 66

ทีมวิจัยเห็นว่า การประกาศภาวะฉุกเฉินในปีนี้ อาจจะมีผลในแง่ของการควบคุมโรค แตกต่างจากการประกาศภาวะฉุกเฉินในปีที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจุบันเชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์จากอังกฤษ เริ่มกลายมาเป็นสายพันธุ์หลักในญี่ปุ่น มีจุดเด่นคือแพร่ระบาดเร็วกว่า และระบาดนานกว่าเชื้อไวรัสดั้งเดิมในปีที่แล้ว

ทีมนักวิจัยยอมรับว่า เป็นเรื่องยากที่จะเปรียบเทียบอันตรายระหว่างเชื้อไวรัสกลายพันธุ์กับเชื้อไวรัสดั้งเดิมได้อย่างชัดเจน เนื่องจากในปัจจุบันยังมีการศึกษาวิจัยเรื่องนี้ไม่มากนัก แต่ทีมวิจัยหวังว่าผลการวิจัยเรื่องนี้จะเกิดประโยชน์ต่อภาครัฐในการจัดทำแผนป้องกันและการรักษาโรคโควิด-19 บนพื้นฐานของข้อสันนิษฐานว่า เชื้อไวรัสกลายพันธุ์มีแนวโน้มทำให้คนไข้เจ็บป่วยรุนแรงหนักกว่าปกติ