นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ไปยังสำนักชลประทานทั่วประเทศ ว่า ขอให้กรมชลประทานประสานความร่วมมือในการทำงานกับทุกภาคส่วน ในการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝน ทั้งการกักเก็บน้ำ การระบายน้ำ และการช่วยเหลือประชาชน กรณีเกิดเหตุอุทกภัย โดยเฉพาะในการกักเก็บน้ำ เพื่อสำรองไว้ใช้ในทุกกิจกรรม เนื่องจากในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภาคการเกษตรจะเป็นภาคส่วนเดียว ที่จะสามารถช่วยเหลือพื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ฝากความหวังไว้กับภาคเกษตร ที่จะช่วยนำพาประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้ไปได้
ด้านนายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทานได้กระชับแผนบริหารจัดการน้ำในฤดูฝนปี 2564 ให้เกิดความชัดเจนในการปฏิบัติงาน โดยได้กำหนดแนวปฏิบัติ อาทิ ให้มีการกำหนดพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม การทำแบบจำลองสถานการณ์ในพื้นที่น้ำล้นตลิ่ง การกำหนดเครื่องมือ เครื่องจักรและกำลังคน ให้พร้อมสำหรับการปฏิบัติงาน 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งให้เร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ และการจัดพื้นที่แก้มลิง ไว้สำหรับหน่วงน้ำ รวมถึงเน้นการประชาสัมพันธ์เชิงรุก เพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชน ขณะเดียวกัน ยังกำชับไปยังโครงการชลประทานทั่วประเทศ ให้ตรวจสอบสภาพความมั่นคงของเขื่อนขนาดใหญ่และขนาดกลาง จำนวน 437 แห่ง และอาคารชลประทานทั้งหมด 1,806 แห่ง ให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพ