คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกระบี่ได้ยกระดับมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพิ่มเติม ตั้งแต่วันที่ 4-18 พฤษภาคม 2564 หลังพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนจากกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มของคนจำนวนมาก โดยมีความเชื่อมโยงกับสถานบันเทิง และการสัมผัสผู้ติดเชื้อจากพื้นที่เสี่ยง เพื่อให้การควบคุมโรคและกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัดกระบี่ดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง ดังนี้
ข้อ 1. มาตรการเข้าออกพื้นที่จังหวัดกระบี่
1.1 ระดับจังหวัด ให้ตั้งด่านรอยต่อระหว่างจังหวัดจำนวน 7 จุด ได้แก่ จุดตรวจบ้านพรุพี ตำบลทรายขาว อำเภอคลองท่อม จุดตรวจแยกนาเหนือตำบลนาเหนือ จุดตรวจหน้าที่ว่าการอำเภออ่าวลึก จุดตรวจถนนเชาท์เทิร์นชีบอร์ด สาย 44 ตำบลปลายพระยาอำเภอปลายพระยา จุดตรวจหมู่ที่ 4 ตำบลสินปุน และหมู่ที่ 1 ตำบลเขาดิน อำเภอเขาพนม จุดตรวจควนสิบห้อง บ้านน้ำดำ หมู่ที่ 6 ตำบลดินอุดม อำเภอลำทับ
– ห้ามมิให้บุคคลที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุดเข้าและออก ยกเว้นแต่มีความจำเป็นหรือเป็นผู้ปฏิบัติงานต้านการแพทย์ การธนาคาร การขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ผลผลิตการเษตร ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ หนังสือพิมพ์ การขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง การขนส่งพัสดุภัณฑ์ การขนส่งสินค้าเพื่อการนำเข้าหรือส่งออก การขนย้ายประชาชนไปสู่ที่เอกเทศเพื่อกักกันตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ การเข้าออกเวรทำงานผลัดกลางคืนตามปกติ หรือการเดินทางมาจากหรือไปยังท่าอากาศยาน โดยมีเอกสารรับรองความจำเป็นหรือเอกสารเกี่ยวกับสินค้าหรือการเดินทาง และมีมาตรการป้องกันโรคตามข้อกำหนด หรือเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตามข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งต่างๆ ของทางราชการ หรือมีเหตุจำเป็นอื่นๆ อันมิอาจหลีกเลี่ยงไต้ และให้รวมถึงผู้ควบคุมยานพาหนะและเจ้าหน้าที่ประจำยานพาหนะสำหรับการนั้นด้วย สำหรับกรณีการขนส่งสินค้าให้บริษัทขนส่งสินค้าต้องแจ้งประเภทสินค้าต่อสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเพื่อออกใบแจ้งประเภทสินค้าเป็นหลักฐานแสดงต่อเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจด้วยทุกครั้ง ทั้งนี้ในกรณีที่ไม่ได้เป็นบุคคลดังกล่าวข้างตัน หากประสงค์จะเดินทางเข้า-ออก ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนดดังต่อไปนี้
บุคคลที่อยู่ในเงื่อนไขที่จะพิจารณาให้เข้าพื้นที่จังหวัดกระบี่ ประกอบด้วย
(ก) ต้องเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD-19) ครบ 2 เข็ม หรือมีผลการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19) ด้วยวิธี RT-POR ซึ่งมีผลการตรวจไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนการเดินทาง
(ข) ผู้ป่วยฉุกเฉินที่มีการส่งต่อเข้าพื้นที่โดยโรงพยาบาลต้นทางมีหนังสือรับรอง
(ค) ผู้ที่แพทย์นัดหมาย และแพทย์ให้การรับรองว่าไม่อาจเลื่อนนัด เนื่องจากมีเหตุจำเป็นต้องได้รับการตรวจรักษาตามนัดหมาย และไม่อาจจะแก้ไขเยียวยารักษาให้ปลอดภัยได้ในภายหลัง
(ง) ผู้ที่มีนัดหมายตามกระบวนการพิจารณาในชั้นศาล พนักงานสอบสวน ต้องมีเอกสารหลักฐานที่ชัดเจนว่า หากเลื่อนเวลานัดหมายดังกล่าวจะทำให้กระบวนการพิจารณาเสียหายอย่างร้ายแรง
บุคคลที่อยู่ในเงื่อนไขที่จะพิจารณาให้ออกนอกพื้นที่จังหวัดกระบี่ได้ ประกอบด้วย
(ก) ผู้ที่มีภูมิลำเนาในและนอกพื้นที่จังหวัดกระบี่ ที่เดินทางออกไป และไม่ประสงค์จะเข้าพื้นที่ภายในวันที่ 31 พ.ค.64
(ข) ผู้ป่วยฉุกเฉินที่มีการส่งต่อเข้าพื้นที่โดยโรงพยาบาลตันทางมีหนังสือรับรอง
(ค) ผู้ที่แพทย์นัดหมายและแพทย์ให้การรับรองว่าไม่อาจเลื่อนนัด เนื่องจากมีเหตุจำเป็นต้องได้รับการตรวจรักษาตามนัดหมาย และไม่อาจจะแก้ไขเยียวยารักษาให้ปลอดภัยได้ในภายหลัง
(ง) ผู้ที่มีนัดหมายตามกระบวนการพิจารณาในชั้นศาล พนักงานสอบสวน ต้องมีเอกสารหลักฐานที่ขัดเจนว่า หากเลื่อนเวลานัดหมายดังกล่าวจะทำให้กระบวนการพิจารณาเสียหายอย่างร้ายแรง
กรณีมีปัญหาในทางปฏิบัติที่ต้องวินิจฉัยสั่งการให้บุคคลหรือยานพาหนะเข้า-ออกพื้นที่ ให้หัวหน้าชุดปฏิบัติการประจำด่านตรวจเป็นผู้มีอำนาจพิจารณาให้เป็นไปตามประกาศที่เกี่ยวข้องเป็นรายกรณีไป
– ให้ตรวจสอบเอกสาร หากไม่เป็นไปตามที่กำหนด เมื่อเข้าพื้นที่จังหวัดกระบี่ให้กักตัว 14 วัน หรือตามระยะเวลาพำนักที่น้อยกว่า
– ให้มีตู้กับข้าวชาวกระบี่ที่ด่านรอยต่อระหว่างจังหวัดทุกด่าน และให้หัวหน้าชุดปฏิบัติการประจำด่านตรวจเป็นผู้ควบคุมดูแล
1.2 ระดับอำเภอและเขตเทศบาล ให้นายอำเภอและนายกเทศมนตรีแต่ละอำเภอกำหนดพื้นที่เสี่ยง แยกเป็นรายตำบล หมู่บ้าน และดำเนินการ ดังนี้
– พื้นที่สีแดง หมายถึง ตำบลหมู่บ้านที่พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้มีมาตรการ ดังนี้
(ก) บุคคลที่เดินทางมาจากจังหวัดที่รัฐบาลประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด และพื้นที่ควบคุม ที่ประสงค์เดินทางเข้าพื้นที่ ต้องรายงานตัวต่อกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนในเขตเทศบาล หรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อที่ได้รับมอบหมาย
(ข) บุคคลที่ประสงค์เดินทางออกนอกพื้นที่ ให้มีหนังสือรับรองจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนในเขตเทศบาล หรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อที่ได้รับมอบหมาย
(ค) ให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขดำเนินการเฝ้าระวังเชิงรุก คันหาผู้ที่มีความเสี่ยงเพื่อนำมาตรวจรักษาและกักกันโดยดำเนินการให้ครอบคลุมพื้นที่
– พื้นที่สีเหลือง หมายถึง ตำบลหมู่บ้านที่พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงหรือผู้ที่ต้องกักกันให้มีมาตรการดังนี้
บุคคลที่เดินทางมาจากจังหวัดที่รัฐบาลประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และพื้นที่ควบคุมสูงสุดที่ประสงค์เดินทางเข้าพื้นที่ ต้องรายงานตัวต่อกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนในเขตเทศบาล หรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อที่ได้รับมอบหมาย
– พื้นที่สีเขียว หมายถึง ตำบลหมู่บ้านที่ไม่พบผู้ติดเชื้อหรือผู้ที่ถูกกักกันให้มีมาตรการดังนี้
(ก) บุคคลที่เดินทางมาจากจังหวัดที่รัฐบาลประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และพื้นที่ควบคุมสูงสุดที่ประสงค์เดินทางเข้าพื้นที่ ต้องรายงานตัวต่อกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อที่ได้รับมอบหมาย
ข้อ 2 มาตรการควบคุมสถานบริการและสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค
- ร้านอาหาร และร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มทุกประเภทให้เปิดบริการไม่เกินเวลา 20.00 น. ทั้งนี้ ไม่อนุญาตให้รับประทานอาหารในร้าน แตให้ซื้อกลับไปรับประทานที่บ้าน
- ตลาดและตลาดนัด ให้เปิดตั้งแต่เวลา 14.00-18.00 น. เฉพาะการจำหน่ายอาหารสด อาหารแห้ง อาหารปรุงสำเร็จ เพื่อนำกลับไปบริโภคที่อื่น อาหารสัตว์ ร้านยา ร้านดอกไม้สด เวชภัณฑ์และสินค้าเน็ดเตล็ดที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต
- ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า เปิดบริการตามปกติจนถึงเวลา 20.00 น. โดยให้จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ และงดเว้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ยกเว้นส่วนที่เป็นตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม และสวนสนุกให้งดการให้บริการ
- ร้านสะดวกซื้อ หรือร้านที่มีลักษณะคล้ายกัน และซูเปอร์มาเก็ต ให้เปิดบริการตั้งแต่เวลา 04.00-22.00 น. จัดให้มีการระบายอากาศภายในให้โล่ง
ข้อ 3 การปิดสถานบริการหรือสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค
- ถนนคนเดิน
- สถานที่ออกกำลังกาย ยิม ฟิตเนส
ข้อ 4 ห้ามจัดกิจกรรมที่มีคนรวมกลุ่มเกินห้าคน เว้นแต่ด้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานโรคติดต่อ หรือเป็นกิจกรรมที่ดำเนินการโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือจัดกิจกรรมในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นสถานที่กักกัน โดยให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรค
ข้อ 5 ขอความร่วมมืองตเดินทางออกนอกเคหะสถาน ระหว่างเวลา 22.00-04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น
ข้อ 6 ขอความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD-I9) ภายในบ้าน ได้แก่ D-Distandng เว้นระยะห่างระหว่างกัน M-mask Wearing สมหน้ากากอนามัย/สวมหน้ากากผ้าเสมอ และ H-Hand Washing ล้างมือบ่อยๆ
ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศฉบับนี้ อาจมีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมี่นบาท หรือต้องระวางจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ