xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ สั่งทุกส่วนราชการ-หน่วยงานเร่งรัดเบิกจ่ายงบให้เป็นไปตามเป้าหมาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำนักงบประมาณได้รายงานให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทราบถึงความคืบหน้าการเบิกจ่ายงบประมาณ ณ ไตรมาส 2 ปีงบประมาณ 2564 (1ต.ค.2563-31มี.ค.2564) ว่า แม้จะอยู่ระหว่างเผชิญสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 เป็นต้นมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งมิติพื้นที่และกลุ่มธุรกิจ การลงทุน และการดำเนินชีวิตของประชาชน แต่ผลการใช้จ่าย โดยเฉพาะการก่อหนี้ผูกพันของส่วนราชการและหน่วยรับงบประมาณต่างๆ ในภาพรวมถือว่าสูงกว่าเป้าหมายตามที่คณะรัฐมนตรีและแผนการใช้จ่ายงบประมาณกำหนด แต่ก็ยังมีความจำเป็นที่จะต้องมีการแก้ไขปัญหาอุปสรรคในบางประเด็นเพื่อให้การเบิกจ่ายงบประมาณเป็นไปตามเป้าหมายและมีส่วนสนับสนุนเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณนี้

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จึงมีข้อสั่งการให้ส่วนราชการและหน่วยรับประมาณทุกหน่วยดำเนินการตามข้อเสนอของสำนักงบประมาณอย่างเคร่งครัด โดยให้เร่งดำเนินการก่อหนี้ผูกพันและเบิกจ่ายงบประมาณ โดยเฉพาะกรณีรายจ่ายลงทุนรายการปีเดียวและรายการผูกพันใหม่ให้แล้วเสร็จ เนื่องจากขณะนี้ได้เข้าสู่ไตรมาสที่ 3 ของปีงบประมาณแล้ว และให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดหรือรัฐมนตรีที่กำกับดูแลหรือควบคุมกิจการของหน่วยรับงบประมาณ หรือรัฐมนตรีผู้รักษาการตามกฎกมายกำกับดูแลเร่งรัด ติดตามและประเมินการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามเป้าหมายหรือแผนที่กำหนด โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพและการกระตุ้นให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ การที่สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงมีต่อเนื่อง ให้ทุกหน่วยรับงบประมาณพิจารณาแนวทางการใช้จ่ายที่สอดคล้องกับปริบทใหม่ที่เปลี่ยนไป(new normal)เพื่อให้การใช้จ่ายเป็นไปตามวัตถุประสงค์ เกิดประโยชน์กับประชาชน ส่วนกรณีปัญหาที่หน่วยงานยังมีข้อติดขัดเกี่ยวกับการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ให้กระทรวงการคลังเร่งสร้างการรับรู้และทำความเข้าใจแก่บุคลากรของหน่วยรับงบประมาณให้ต่อเนื่องและชัดเจน

สำหรับข้อมูลการเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายรวม 3.28 ล้านล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 2 ส่วนราชการ ตลอดจนหน่วยรับงบประมาณต่างๆ ได้เบิกจ่ายแล้ว 1.55 ล้านล้านบาท มีการก่อหนี้ผูกพันแล้ว 1.78 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 47.21 และร้อยละ 54.24 ตามลำดับ แต่หากพิจารณาเฉพาะงบประมาณรายจ่ายกรณีไม่รวมงบกลาง วงเงินงบประมาณรวมจะอยู่ที่ 2.67 ล้านล้านบาท มีการเบิกจ่ายแล้ว 1.30 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 48.96 ต่ำกว่าเป้าหมายร้อยละ 5.04 ก่อหนี้ผูกพันแล้ว 1.53 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 57.59 สูงกว่าเป้าหมายร้อยละ 3.59

ทั้งนี้ กรณีไม่รวมงบกลางเฉพาะรายจ่ายประจำ จากวงเงินรวม 2.08 ล้านล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 1.14 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 55.09 ต่ำกว่าเป้าหมายร้อยละ 1.91 ก่อหนี้ผูกพันแล้ว 1.16 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 56.01 ต่ำกว่าเป้าหมายร้อยละ 0.99 ขณะที่รายจ่ายลงทุนจากวงเงินรวม 5.87 แสนล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 1.59 แสนล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 27.19 ต่ำกว่าเป้าหมายร้อยละ 17.81 ก่อหนี้ผูกพันแล้ว 3.71 แสนล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 63.22 สูงกว่าเป้าหมายร้อยละ 18.22