นายกฤช เอื้อวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยถึงกรณีที่ กกต.ประสานกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จัดชุดปฏิบัติการเข้ามาตรวจหาเชื้อผู้ที่อยู่ในข่ายความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้แก่ผู้บริหารและพนักงานภายหลัง พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ติดเชื้อโควิด-19 ว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 23 เมษายน ที่ผ่านมา ทางกรมควบคุมโรคได้เข้ามาตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยมี กกต. ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ กกต.เข้ารับการตรวจทั้งหมด 122 คน เป็นผู้ใกล้ชิดเสี่ยงสูง 89 คน ใกล้ชิดเสี่ยงต่ำ 33 คน สรุปผลการตรวจครั้งที่ 1 ไม่พบว่ามีการติดเชื้อเพิ่มเติม หลังจากนี้ประมาณ 7 วันจะมีการตรวจครั้งที่ 2 ซึ่งอยู่ระหว่างการนัดหมายกับทางกรมควบคุมโรคว่าจะเป็นวันและสถานที่ใด ทั้งนี้ ทางสำนักงานฯ ได้สั่งให้บุคคลที่เข้าข่ายเป็นกลุ่มใกล้ชิดเสี่ยงสูง กักตัวเป็นระยะเวลา 14 วัน และให้ปฏิบัติงานแบบทำงานที่บ้านแล้ว
นายกฤช ยังกล่าวว่า ในส่วนการทำงานของ กกต. โดยเฉพาะการพิจารณาประกาศรับรองผลการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลนั้น การพิจารณาประกาศรับรองผล เป็นกิจกรรมที่ต้องทำตามกฎหมาย ซึ่งได้ทำเรื่องขออนุญาตไปทางกรมควบคุมโรค และได้รับอนุญาตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ขอให้ทางสำนักงานต้องมีมาตรการที่เข้มข้น จำกัดผู้เข้าประชุมให้น้อยลง ลดเวลาประชุมให้น้อยลง และรักษาระยะห่าง โดย กกต.จะมีการนัดประชุมในวันอังคารที่ 27 เมษายนนี้ เพื่อพิจารณาประกาศรับรองผลการเลือกตั้งในจังหวัดที่เหลืออยู่
รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ยืนยันว่า สำนักงานฯ มีมาตรการที่เข้มข้นเพื่อรับมือป้องกันโควิด ขณะนี้มีการทำความสะอาดฆ่าเชื้อในพื้นที่หลักๆ แล้ว เช่น ห้องประชุม กกต. ห้องทำงานเลขาธิการ ห้องที่เลขาธิการ กกต.เข้าร่วมประชุม ส่วนโซนอื่นๆ จะทยอยทำความสะอาดฆ่าเชื้อโดยเร็ว รวมทั้งก่อนหน้านี้เราได้มีการปรับลดเวลาทำงาน ให้บุคลากรมาทำงานเท่าที่จำเป็น