นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ระบุถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในวันนี้ มีอัตราการติดเชื้อทั่วโลกประมาณ 8 แสนคน และแนวโน้มยังคงอยู่ในอัตราที่สูง ขณะเดียวกัน ในวันเสาร์ที่ 24 เมษายน ประเทศไทยมียอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 2,839 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงสุดที่เคยปรากฏมานับแต่เกิดการแพร่ระบาดเมื่อปีที่แล้ว แสดงให้เห็นว่าการแพร่ระบาดมีความรุนแรงและเป็นวงกว้างกว่าระลอกที่ผ่านๆ มา
จากข้อมูลการแพร่ระบาด สัปดาห์หน้า (25 เม.ย. -2 พ.ค.) จะเป็นช่วงพีคของความเสี่ยงสูงสุดแล้ว สองอาทิตย์หลังจากนั้นเป็นช่วงที่จะเห็นกราฟชัดเจนว่าจะชี้ขึ้นหรือชี้ลง
ทางสมาคมผู้ค้าปลีกไทย และสมาคมศูนย์การค้าไทย ตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องยกระดับมาตรการการเฝ้าระวังการระบาดของโควิด-19 ขึ้นอีกระดับหนึ่ง โดยสมาชิกสมาคมทั้งสองแห่งและภาคีเครือข่ายทั่วประเทศ จะเพิ่มมาตรการเข้มข้นในการคัดกรองผู้บริโภคเข้าศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าในระดับสูงสุด โดยประกาศเลื่อนการเปิด-ปิดศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศ เป็นเวลา 11.00-20.00 น. ยกเว้นซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์ท และร้านอาหารที่ตั้งในศูนย์การค้า จะยังคงให้บริการถึง 21.00 น. ส่วนร้านค้าสะดวกซื้อจะให้บริการตามเวลา 05.00-22.00 น. ทั้งนี้ มีผลครอบคลุมเฉพาะพื้นที่สีแดง 18 จังหวัดเท่านั้น ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 25 เมษายน จนถึงวันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคม 2564 (ยกเว้นจะมีประกาศของจังหวัดระบุอื่นใดนอกเหนือจากนี้)
อย่างไรก็ตาม สมาคมผู้ค้าปลีกไทยและสมาคมศูนย์การค้าไทย ยังคงงดกิจกรรมที่มีการรวมตัตวของคนจำนวนมาก รวมถึงการให้พนักงาน Work from Home เพื่อเพิ่มศักยภาพให้ทุกหน่วยงานสามารถควบคุมการแพร่ระบาดระลอกใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ สมาคมผู้ค้าปลีกและสมาคมศูนย์การค้า จะเป็นผู้นำให้เอกชนทุกภาคส่วนร่วมมือกันในการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ให้จบเร็วที่สุด