นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย วันศุกร์ที่ 23 เมษายน 2564 มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,070 ราย ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่มีการระบาด ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 50,183 ราย โดยเป็นผู้ป่วยยืนยันสะสมในระลอกใหม่ เมษายน 21,320 ราย
ในจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,070 ราย แบ่งเป็น ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกัน 8 ราย (ตุรกี 1 ราย อินเดีย 5 ราย ปากีสถาน 1 ราย และมาเลเซีย 1 ราย) ขณะที่เป็นการติดเชื้อในประเทศสูงถึง 2,062 ราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 1,902 ราย และผู้ป่วยรายใหม่จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 160 ราย
ขณะที่มีผู้ได้รับการรักษาหายเพิ่มขึ้น 341 ราย รวมหายป่วยแล้ว 30,189 ราย ยังรักษาตัวอยู่อีก 19,873 ราย ทั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 4 ราย รวมจำนวนผู้เสียชีวิตสะสม 121 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิตรายที่ 118 เป็นชายไทย อายุ 72 ปี อยู่ที่กรุงเทพมหานคร ปฏิเสธโรคประจำตัว วันที่ 9-12 เมษายน เดินทางไป จ.ภูเก็ต วันที่ 13 เมษายน มีไข้ ไอ เจ็บคอ และถ่ายเหลว วันที่ 17 เมษายน อาการไม่ดีขึ้น ไปรับการรักษาที่โรงพยาบาล พบปอดอักเสบ วันที่ 18 เมษายน ผลพบเชื้อ เหนื่อยหอบ แพทย์ใส่ท่อช่วยหายใจ กระทั่งเสียชีวิตในวันที่ 20 เมษายน เวลา 18.29 น.
ผู้เสียชีวิตรายที่ 119 เป็นชายไทย อายุ 74 ปี อยู่ที่ จ.สงขลา มีโรคประจำตัว คือ ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ วันที่ 6 เมษายน สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน วันที่ 10 เมษายน ผลพลเชื้อ วันที่ 11 เมษายน เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล วันที่ 15 เมษายน เอกซเรย์พบปอดอักเสบมากขึ้น วันที่ 22 เมษายน หัวใจหยุดเต้น ทำการกู้ชีพ และเสียชีวิตเมื่อเวลา 05.15 น. ในวันเดียวกัน
ผู้เสียชีวิตรายที่ 120 เป็นหญิงไทย อายุ 29 ปี อยู่ที่ จ.สมุทรปราการ มีโรคประจำตัว คือ โรคอ้วน วันที่ 10 เมษายน สัมผัสผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้า วันที่ 12 เมษายน ไอ มีเสมหะ หอบเหนื่อย วันที่ 16 เมษายน ตรวจพบเชื้อ วันที่ 18 เมษายน เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ต่อมามีภาวะหัวใจล้มเหลว ปอดอักเสบติดเชื้อรุนแรง และเสียชีวิตวันที่ 22 เมษายน เวลา 06.45 น.
ผู้เสียชีวิตรายที่ 121 เป็นชายไทย อายุ 83 ปี อยู่ที่ จ.สมุทรปราการ มีโรคประจำตัว คือ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไตเรื้อรัง และโรคหัวใจ มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน วันที่ 8 เมษายน เข้ารับการตรวจหาเชื้อ มีอาการไอ มีเสมหะ วันที่ 9 เมษายน ผลพบเชื้อ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล วันที่ 10 เมษายน อาการไม่ดีขึ้น พบปอดอักเสบรุนแรง ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ และเสียชีวิตในวันที่ 22 เมษายน เวลา 00.28 น.
ในจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,070 ราย แบ่งเป็น ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกัน 8 ราย (ตุรกี 1 ราย อินเดีย 5 ราย ปากีสถาน 1 ราย และมาเลเซีย 1 ราย) ขณะที่เป็นการติดเชื้อในประเทศสูงถึง 2,062 ราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 1,902 ราย และผู้ป่วยรายใหม่จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 160 ราย
ขณะที่มีผู้ได้รับการรักษาหายเพิ่มขึ้น 341 ราย รวมหายป่วยแล้ว 30,189 ราย ยังรักษาตัวอยู่อีก 19,873 ราย ทั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 4 ราย รวมจำนวนผู้เสียชีวิตสะสม 121 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิตรายที่ 118 เป็นชายไทย อายุ 72 ปี อยู่ที่กรุงเทพมหานคร ปฏิเสธโรคประจำตัว วันที่ 9-12 เมษายน เดินทางไป จ.ภูเก็ต วันที่ 13 เมษายน มีไข้ ไอ เจ็บคอ และถ่ายเหลว วันที่ 17 เมษายน อาการไม่ดีขึ้น ไปรับการรักษาที่โรงพยาบาล พบปอดอักเสบ วันที่ 18 เมษายน ผลพบเชื้อ เหนื่อยหอบ แพทย์ใส่ท่อช่วยหายใจ กระทั่งเสียชีวิตในวันที่ 20 เมษายน เวลา 18.29 น.
ผู้เสียชีวิตรายที่ 119 เป็นชายไทย อายุ 74 ปี อยู่ที่ จ.สงขลา มีโรคประจำตัว คือ ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ วันที่ 6 เมษายน สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน วันที่ 10 เมษายน ผลพลเชื้อ วันที่ 11 เมษายน เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล วันที่ 15 เมษายน เอกซเรย์พบปอดอักเสบมากขึ้น วันที่ 22 เมษายน หัวใจหยุดเต้น ทำการกู้ชีพ และเสียชีวิตเมื่อเวลา 05.15 น. ในวันเดียวกัน
ผู้เสียชีวิตรายที่ 120 เป็นหญิงไทย อายุ 29 ปี อยู่ที่ จ.สมุทรปราการ มีโรคประจำตัว คือ โรคอ้วน วันที่ 10 เมษายน สัมผัสผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้า วันที่ 12 เมษายน ไอ มีเสมหะ หอบเหนื่อย วันที่ 16 เมษายน ตรวจพบเชื้อ วันที่ 18 เมษายน เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ต่อมามีภาวะหัวใจล้มเหลว ปอดอักเสบติดเชื้อรุนแรง และเสียชีวิตวันที่ 22 เมษายน เวลา 06.45 น.
ผู้เสียชีวิตรายที่ 121 เป็นชายไทย อายุ 83 ปี อยู่ที่ จ.สมุทรปราการ มีโรคประจำตัว คือ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไตเรื้อรัง และโรคหัวใจ มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน วันที่ 8 เมษายน เข้ารับการตรวจหาเชื้อ มีอาการไอ มีเสมหะ วันที่ 9 เมษายน ผลพบเชื้อ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล วันที่ 10 เมษายน อาการไม่ดีขึ้น พบปอดอักเสบรุนแรง ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ และเสียชีวิตในวันที่ 22 เมษายน เวลา 00.28 น.