วันนี้ (22 เม.ย.) เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อไต่สวนและมีความเห็นกรณีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล และนางยลดา หวังศุภกิจโกศล) มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติหรือไม่ และหรือมีการแจ้งหรือรายงานบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของตนและคู่สมรส อันเป็นเท็จหรือไม่ อย่างไร
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากการที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ได้เปิดเผยรายการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ของผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอยู่ในขณะนี้นั้นพบว่า ในส่วนของ นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา (นายก อบจ.) คู่สมรสของนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.คมนาคม แจ้งบัญชีทรัพย์และหนี้สินในการเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2564 มีความผิดปกติ ในส่วนที่เกี่ยวกับหนี้สินของ นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล และภรรยา ที่เคยมีรวมกันทั้งสิ้น 11,138,404,713 บาท เมื่อเทียบกับการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล ที่ยื่นไว้ต่อ ป.ป.ช. เมื่อ 22 สิงหาคม 2562
ระยะเวลาผ่านไปเพียงประมาณ 2 ปี หลังจากนายวีรศักดิ์ ดำรงตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ หนี้สินประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาทหายไปเกือบทั้งหมด เหลืออยู่เพียงประมาณ 35.5 ล้านบาทที่เป็นเงินเบิกเกินบัญชี ซึ่งแม้นายวีรศักดิ์จะแจ้งผ่านสื่อมวลชนมาว่า เป็นหนี้เงินค้ำประกันเงินกู้ เมื่อผู้กู้เขาชำระกันหมดแล้ว หนี้ส่วนที่ตนค้ำประกันย่อมหมดไปนั้น เป็นประเด็นปัญหาที่นายวีรศักดิ์ต้องไปชี้แจงพร้อมพยานหลักฐานต่อ ป.ป.ช.เอง
แต่มีข้อพิรุธที่สำคัญที่นายวีรศักดิ์ยังไม่ได้อธิบาย คือ ในระยะเวลาประมาณ 2 ปีนับแต่วันที่ 22 ส.ค.62 มาจนถึงวันที่ 25 ม.ค.64 นางยลดา หวังศุภกิจโกศล มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นถึง 150,147,276 บาท ส่วนของนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นถึง 211,469,361 บาท รวมทั้งคู่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นถึง 361,616,637 บาท ประเด็นข้อพิรุธดังกล่าวกรณีที่มีทรัพย์สินของทั้งสองเพิ่มขึ้นมากเป็นพิเศษนั้น เพิ่มขึ้นได้อย่างไร โดยมีคำอธิบายสมเหตุ สมผลหรือไม่อย่างไร
ที่สำคัญหาบุคคลทั้งสองมีรายได้หรือทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นนั้นไซร้ ได้เสียภาษี หรือรายงานหรือแจ้งรายรับรายจ่ายด้านภาษีต่อสำนักงานสรรพากรพื้นที่หรือกรมสรรพากรประจำปี พ.ศ.2563 และ พ.ศ.2564 แล้วหรือไม่ อย่างไร เพื่อเป็นการยืนยันว่าบุคคลทั้งสองซึ่งเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้ปฏิบัติตนให้เป็นกฎหมายหรือแบบอย่างที่ดีของสังคมแล้วหรือไม่ด้วย