ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เปิดเผยถึงกรณีกระทรวงการคลังเตรียมเสนอการปรับอัตราภาษียาสูบให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา ว่า รู้สึกกังวลเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากการยาสูบแห่งประเทศไทย ภายใต้กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอโครงสร้างภาษียาสูบใหม่ และมีการปรับราคาบุหรี่ลดลงเหลือซองละ 50-55 บาท ซึ่งปัจจุบันอัตราภาษียาสูบมี 2 ระดับ โดยบุหรี่ราคาไม่เกินซองละ 60 บาท เสียภาษีร้อยละ 20 ส่วนบุหรี่ที่ราคาเกินซองละ 60 บาท เสียภาษีร้อยละ 40 ส่วนแผนโครงสร้างภาษีใหม่ที่มีข่าวออกมาว่าจะมีการนำเสนอคือ 1.เก็บภาษีอัตราเดียวกันตามมาตรฐานสากล 2.ปรับภาษีเป็นหลายระดับเพื่อเอื้อให้บุหรี่ของยาสูบไทยแข่งขันกันได้ โดยเฉพาะบุหรี่ราคาถูก หรือบุหรี่ที่กำลังประกาศลดราคาบุหรี่กันอยู่ในขณะนี้ ซึ่งในต่างประเทศทั่วโลกมีการปรับอัตราการเก็บภาษียาสูบให้เหลือระดับเดียว เนื่องจากภาษีหลายระดับขัดกับเจตนารมณ์ของภาษียาสูบที่ถูกต้อง ที่จะควบคุมและรณรงค์ให้ประชากรในประเทศสูบบุหรี่ลดลงและรัฐบาลเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ หวังว่าการตัดสินใจของคณะรัฐมนตรีจะไม่ทำให้คนไทยผิดหวัง โดยรัฐบาลจะต้องไม่เป็นห่วงความอยู่ดีของธุรกิจยาสูบ มากกว่าสุขภาพของคนไทย เพราะหาก ครม .เห็นชอบกับการปรับอัตราภาษียาสูบเป็นแบบหลายระดับ จะส่งผลเสียมากกว่าประโยชน์ที่จะได้รับ เพราะจากการปรับอัตราภาษียาสูบ 2 ระดับ ที่ใช้ในปัจจุบัน ส่งผลให้บุหรี่ไทยมีราคาสูงขึ้นและขายได้น้อยลง แต่บุหรี่ต่างประเทศราคาถูกลงและขายได้มากขึ้น ซึ่งหากมีการปรับภาษีเป็นหลายระดับจริง จะทำให้ธุรกิจยาสูบขายบุหรี่ได้มากขึ้น ซึ่งเท่ากับเป็นการเพิ่มนักสูบให้เพิ่มขึ้นด้วย
ทั้งนี้ หวังว่าการตัดสินใจของคณะรัฐมนตรีจะไม่ทำให้คนไทยผิดหวัง โดยรัฐบาลจะต้องไม่เป็นห่วงความอยู่ดีของธุรกิจยาสูบ มากกว่าสุขภาพของคนไทย เพราะหาก ครม .เห็นชอบกับการปรับอัตราภาษียาสูบเป็นแบบหลายระดับ จะส่งผลเสียมากกว่าประโยชน์ที่จะได้รับ เพราะจากการปรับอัตราภาษียาสูบ 2 ระดับ ที่ใช้ในปัจจุบัน ส่งผลให้บุหรี่ไทยมีราคาสูงขึ้นและขายได้น้อยลง แต่บุหรี่ต่างประเทศราคาถูกลงและขายได้มากขึ้น ซึ่งหากมีการปรับภาษีเป็นหลายระดับจริง จะทำให้ธุรกิจยาสูบขายบุหรี่ได้มากขึ้น ซึ่งเท่ากับเป็นการเพิ่มนักสูบให้เพิ่มขึ้นด้วย