นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าว ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ ศบค. มีมติเห็นชอบมาตรการยกระดับการควบคุมโรคโควิด-19 โดยห้ามประชาชนที่อาศัยอยู่ในโซนสีแดง หรือพื้นที่ควบคุมสูงสุด จำนวน 18 จังหวัด ออกนอกเคหะสถาน ตั้งแต่เวลา 23.00 น. จนถึงเวลา 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ซึ่งต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีการแถลงข่าวยังไม่มีการล็อกดาวน์ หรือเคอร์ฟิว ดังนั้น ในส่วนของการให้บริการรถโดยสารประจำทาง (รถเมล์) ของ ขสมก. ยังคงให้บริการเดินรถตามปกติ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงช่วงเวลาการเดินรถแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ขสมก. ได้มีการเพิ่มจำนวนรถ และเที่ยววิ่ง ระหว่างวันที่ 18-19 เมษายน 2564 เพื่อรองรับความต้องการเดินทางของประชาชนช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ ทั้งการจัดเดินรถเชื่อมต่อท่าอากาศยาน และการจัดเดินรถเชื่อมต่อสถานีขนส่งกรุงเทพต่าง ๆ ประกอบด้วย 1.ในเส้นทางปกติ จัดรถออกวิ่ง วันละ 2,700-2,800 คัน จำนวน 20,000 กว่า เที่ยว เพื่อรองรับผู้โดยสารเดินทางได้สูงสุดวันละ 800,000 คน
ทั้งนี้ ผู้โดยสารได้ทยอยเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 14-16 เมษายนแล้ว คาดว่า วันที่ 17-18 เมษายนนี้ จะมีการเดินทางที่ใช้บริการรถเมล์ประมาณ 400,000 คนต่อวันเท่านั้น เพราะเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ปกติจะมีผู้โดยสารใช้บริการรถเมล์น้อยอยู่แล้ว เนื่องจากโควิด-19 ทำให้ผู้โดยสารงดเดินทางและอยู่ที่บ้านจำนวนมาก
นอกจากนี้ ขสมก. ได้มีการเพิ่มจำนวนรถ และเที่ยววิ่ง ระหว่างวันที่ 18-19 เมษายน 2564 เพื่อรองรับความต้องการเดินทางของประชาชนช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ ทั้งการจัดเดินรถเชื่อมต่อท่าอากาศยาน และการจัดเดินรถเชื่อมต่อสถานีขนส่งกรุงเทพต่าง ๆ ประกอบด้วย 1.ในเส้นทางปกติ จัดรถออกวิ่ง วันละ 2,700-2,800 คัน จำนวน 20,000 กว่า เที่ยว เพื่อรองรับผู้โดยสารเดินทางได้สูงสุดวันละ 800,000 คน
ทั้งนี้ ผู้โดยสารได้ทยอยเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 14-16 เมษายนแล้ว คาดว่า วันที่ 17-18 เมษายนนี้ จะมีการเดินทางที่ใช้บริการรถเมล์ประมาณ 400,000 คนต่อวันเท่านั้น เพราะเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ปกติจะมีผู้โดยสารใช้บริการรถเมล์น้อยอยู่แล้ว เนื่องจากโควิด-19 ทำให้ผู้โดยสารงดเดินทางและอยู่ที่บ้านจำนวนมาก