น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายผ่อนผันให้คนต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) อยู่ในราชอาณาจักรและทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นกรณีพิเศษในช่วงสถานการณ์โควิด-19 โดยคนต่างด้าวต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด ซึ่งรวมถึงการตรวจหาโรคโควิด-19 และดำเนินการจัดเก็บอัตลักษณ์บุคคล (Biometrics) ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 16 เมษายนนี้ พร้อมทั้งจัดทำทะเบียนประวัติคน ซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ด้วยมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน ทำให้มีข้อจำกัดในการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว รวมถึงจำกัดจำนวนผู้รับบริการในการตรวจสุขภาพและจัดเก็บอัตลักษณ์บุคคลในแต่ละวัน เพื่อหลีกเลี่ยงความแออัดนั้น เพื่อให้การดำเนินการของคนต่างด้าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สามารถอยู่ในราชอาณาจักรและทำงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงนายจ้างและสถานประกอบการมีแรงงานในการดำเนินกิจการต่อไปได้
ครม.จึงมีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาการดำเนินการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และการจัดเก็บอัตลักษณ์บุคคล (Biometrics) เป็นภายในวันที่ 16 มิถุนายน 2564 จากเดิมที่ต้องดำเนินการภายในวันที่ 16 เมษายนนี้ และขยายระยะเวลาให้คนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทำงานไปจัดทำทะเบียนประวัติคน ซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรสีชมพู) ออกไปเป็นภายในวันที่ 31 มีนาคม 2565 พร้อมกันทั้งกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่มีนายจ้างและไม่มีนายจ้าง
ครม.จึงมีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาการดำเนินการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และการจัดเก็บอัตลักษณ์บุคคล (Biometrics) เป็นภายในวันที่ 16 มิถุนายน 2564 จากเดิมที่ต้องดำเนินการภายในวันที่ 16 เมษายนนี้ และขยายระยะเวลาให้คนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทำงานไปจัดทำทะเบียนประวัติคน ซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรสีชมพู) ออกไปเป็นภายในวันที่ 31 มีนาคม 2565 พร้อมกันทั้งกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่มีนายจ้างและไม่มีนายจ้าง