วันนี้ (29 มี.ค.64) เวลา 18.00 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์และทรงเปิดอาคารที่ทำการศาลจังหวัดพิจิตร ณ ที่ทำการศาลจังหวัดพิจิตร ตำบลคลองคะเชนทร์ อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตรโดยมีนายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร นางนางเมทินี ชโลธร ประธานศาลฎีกา นายเริงศักดิ์ วิริยะชัยวงศ์ อธิบดีผู้พิพากษาภาค 6 นายพงษ์เดช วานิชกิตติกูล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม นายธานินทร์ อินทร์น้อย ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพิจิตร พร้อมข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม เฝ้าฯ และประชาชนเฝ้าฯ รับเสด็จ
การนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศบูชาพระพุทธนวราชบพิตร ทรงกราบ ทรงศีล พระราชทานพระบรมราชวโรกาส ให้นายธานินทร์ อินทร์น้อย ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพิจิตร นางนิธิวดี โมกขมรรคกุล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดพิจิตร ทูลเกล้าฯ หนังสือที่ระลึก เสร็จแล้วเสด็จออกจากพลับพลาพิธี ไปยังมณฑลพิธีทรงวางศิลาฤกษ์ ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมแผ่นอิฐ ทอง นาก เงิน และแผ่นศิลาฤกษ์ แล้วทรงวางแผ่นอิฐ ทอง นาก เงิน และแผ่นศิลาฤกษ์ ลงในหลุม และเสด็จ ฯ ไปยังแท่นพิธีทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้าย "อาคารที่ทำการศาลจังหวัดพิจิตร" ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ทรงหลั่งทักษิโณทก(พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก) พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายพงษ์เดช วานิชกิตติกูล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กราบบังคมทูลเบิกผู้มีอุปการคุณแก่ศาลจังหวัดพิจิตร เข้าเฝ้า ฯ รับพระราชทานของที่ระลึกจำนวน 120 ราย ทรงลงพระปรมาภิไธย พระนามาภิไธยในแผ่นศิลา เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงลาพระสงฆ์ แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปยังห้องรับรอง ทรงลงพระปรมาภิไธย และทรงลงพระนามาภิไธยในสมุดที่ระลึก ทรงฉายพระบรมฉายาลักษณ์ร่วมกับสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ศาลยุติธรรม และข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลจังหวัดพิจิตร
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จ ฯ ออกจากอาคารที่ทำการศาลจังหวัดพิจิตรไปยังสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว สนามกีฬาโรงเรียนสระหลวงวิทยาคม ประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง เสด็จ ฯ ไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 46 จังหวัดพิษณุโลก เสด็จพระราชดำเนินกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
ในการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์และทรงเปิดอาคารที่ทำการศาลจังหวัดพิจิตร ณ ที่ทำการศาลจังหวัดพิจิตร ในครั้งนี้ มีราษฎรจากจังหวัดพิจิตร และจังหวัดใกล้เคียงมารอเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ตลอดสองฝั่งถนนที่รถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินผ่าน ทุกคนพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีเหลือง โบกธงพระปรมาภิไธย “วปร.” และธงพระนามาภิไธย “สท” และชูป้ายข้อความ และพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงฉายกับสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี อันเป็นการแสดงความจงรักภักดีพร้อมเปล่งเสียงถวายพระพรทรงพระเจริญดังกึกก้อง และต่างปลื้มปีติที่ได้ชมพระบารมี
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงโบกพระหัตถ์ และแย้มพระสรวลให้แก่ราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ขณะที่รถยนต์พระที่นั่งเคลื่อนผ่านอย่างช้า ๆ
ทั้งนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้กองแพทย์หลวงสำนักพระราชวัง ร่วมกับโรงพยาบาลและหน่วยสาธารณสุขจังหวัดพิจิตร ออกให้บริการด้านสาธารณสุข ดูแลรักษาพยาบาลเบื้องต้นแก่ราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ กับทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเจลแอลกอฮอล์กับพิมเสนน้ำ และให้จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน เพื่อประกอบอาหารปรุงสุกใหม่ ถูกสุขอนามัย พระราชทานเลี้ยงแก่ราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ การได้รับพระราชทานพระมหากรุณาในครั้งนี้ ยังความปลื้มปีติแก่ราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จอย่างหาที่สุดมิได้
สำหรับอาคารศาลจังหวัดพิจิตรหลังใหม่ ได้ก่อสร้างขึ้นทดแทนอาคารหลังเก่าที่สูง 2 ชั้น มีห้องพิจารณา 6 บัลลังก์ ซึ่งใช้งานมานานแล้ว มีสภาพคับแคบทรุดโทรม ไม่สะดวกแก่การพิจารณาคดีที่เพิ่มขึ้น โดยอาคารหลังใหม่นี้ก่อสร้างสูง 3 ชั้น มีห้องพิจารณา 14 บัลลังก์ เพื่อรองรับการขยายงานและให้เหมาะสมต่อปริมาณคดีที่เกิดขึ้นอย่างเพียงพอ ซึ่งตัวอาคารสง่างามด้วยสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์ หลังคาปั้นหยา กว้างขวางและมีเครื่องมืออุปกรณ์ที่ทันสมัย ส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพในการพิจารณา คดีได้สะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น พร้อมอํานวยความยุติธรรมแก่ผู้มีอรรถคดี และให้บริการประชาชนที่มาติดต่อราชการศาลได้อย่างดี
สําหรับเขตอํานาจศาลจังหวัดพิจิตรนั้น ครอบคลุมตลอดท้องที่ 12 อําเภอในจังหวัด โดยช่วงปี พ.ศ.2563 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดพิจิตรได้พิจารณาคดีอาญาคดีแพ่ง คดีผู้บริโภคเสร็จไปทั้งสิ้น 8,183 คดี จากคดีที่คงค้างมาและคดีรับใหม่จํานวน 9,910 คดี โดย ศาลจังหวัดพิจิตร ถือเป็นศาลขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเขตอํานาจของสํานักงานอธิบดี ผู้พิพากษาภาค 6 ซึ่งความพร้อมของการบริหารจัดการคดีให้เป็นไปด้วยความรวดเร็วและสะดวกต่อผู้มีอรรถคดีนั้น ได้นําเทคโนโลยีสารสนเทศซึ่งช่วยส่งเสริมงานตุลาการมาใช้และให้บริการส่วนต่างๆ ได้อย่างครอบคลุม
การนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศบูชาพระพุทธนวราชบพิตร ทรงกราบ ทรงศีล พระราชทานพระบรมราชวโรกาส ให้นายธานินทร์ อินทร์น้อย ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพิจิตร นางนิธิวดี โมกขมรรคกุล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดพิจิตร ทูลเกล้าฯ หนังสือที่ระลึก เสร็จแล้วเสด็จออกจากพลับพลาพิธี ไปยังมณฑลพิธีทรงวางศิลาฤกษ์ ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมแผ่นอิฐ ทอง นาก เงิน และแผ่นศิลาฤกษ์ แล้วทรงวางแผ่นอิฐ ทอง นาก เงิน และแผ่นศิลาฤกษ์ ลงในหลุม และเสด็จ ฯ ไปยังแท่นพิธีทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้าย "อาคารที่ทำการศาลจังหวัดพิจิตร" ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ทรงหลั่งทักษิโณทก(พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก) พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายพงษ์เดช วานิชกิตติกูล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กราบบังคมทูลเบิกผู้มีอุปการคุณแก่ศาลจังหวัดพิจิตร เข้าเฝ้า ฯ รับพระราชทานของที่ระลึกจำนวน 120 ราย ทรงลงพระปรมาภิไธย พระนามาภิไธยในแผ่นศิลา เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงลาพระสงฆ์ แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปยังห้องรับรอง ทรงลงพระปรมาภิไธย และทรงลงพระนามาภิไธยในสมุดที่ระลึก ทรงฉายพระบรมฉายาลักษณ์ร่วมกับสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ศาลยุติธรรม และข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลจังหวัดพิจิตร
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จ ฯ ออกจากอาคารที่ทำการศาลจังหวัดพิจิตรไปยังสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว สนามกีฬาโรงเรียนสระหลวงวิทยาคม ประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง เสด็จ ฯ ไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 46 จังหวัดพิษณุโลก เสด็จพระราชดำเนินกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
ในการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์และทรงเปิดอาคารที่ทำการศาลจังหวัดพิจิตร ณ ที่ทำการศาลจังหวัดพิจิตร ในครั้งนี้ มีราษฎรจากจังหวัดพิจิตร และจังหวัดใกล้เคียงมารอเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ตลอดสองฝั่งถนนที่รถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินผ่าน ทุกคนพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีเหลือง โบกธงพระปรมาภิไธย “วปร.” และธงพระนามาภิไธย “สท” และชูป้ายข้อความ และพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงฉายกับสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี อันเป็นการแสดงความจงรักภักดีพร้อมเปล่งเสียงถวายพระพรทรงพระเจริญดังกึกก้อง และต่างปลื้มปีติที่ได้ชมพระบารมี
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงโบกพระหัตถ์ และแย้มพระสรวลให้แก่ราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ขณะที่รถยนต์พระที่นั่งเคลื่อนผ่านอย่างช้า ๆ
ทั้งนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้กองแพทย์หลวงสำนักพระราชวัง ร่วมกับโรงพยาบาลและหน่วยสาธารณสุขจังหวัดพิจิตร ออกให้บริการด้านสาธารณสุข ดูแลรักษาพยาบาลเบื้องต้นแก่ราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ กับทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเจลแอลกอฮอล์กับพิมเสนน้ำ และให้จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน เพื่อประกอบอาหารปรุงสุกใหม่ ถูกสุขอนามัย พระราชทานเลี้ยงแก่ราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ การได้รับพระราชทานพระมหากรุณาในครั้งนี้ ยังความปลื้มปีติแก่ราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จอย่างหาที่สุดมิได้
สำหรับอาคารศาลจังหวัดพิจิตรหลังใหม่ ได้ก่อสร้างขึ้นทดแทนอาคารหลังเก่าที่สูง 2 ชั้น มีห้องพิจารณา 6 บัลลังก์ ซึ่งใช้งานมานานแล้ว มีสภาพคับแคบทรุดโทรม ไม่สะดวกแก่การพิจารณาคดีที่เพิ่มขึ้น โดยอาคารหลังใหม่นี้ก่อสร้างสูง 3 ชั้น มีห้องพิจารณา 14 บัลลังก์ เพื่อรองรับการขยายงานและให้เหมาะสมต่อปริมาณคดีที่เกิดขึ้นอย่างเพียงพอ ซึ่งตัวอาคารสง่างามด้วยสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์ หลังคาปั้นหยา กว้างขวางและมีเครื่องมืออุปกรณ์ที่ทันสมัย ส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพในการพิจารณา คดีได้สะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น พร้อมอํานวยความยุติธรรมแก่ผู้มีอรรถคดี และให้บริการประชาชนที่มาติดต่อราชการศาลได้อย่างดี
สําหรับเขตอํานาจศาลจังหวัดพิจิตรนั้น ครอบคลุมตลอดท้องที่ 12 อําเภอในจังหวัด โดยช่วงปี พ.ศ.2563 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดพิจิตรได้พิจารณาคดีอาญาคดีแพ่ง คดีผู้บริโภคเสร็จไปทั้งสิ้น 8,183 คดี จากคดีที่คงค้างมาและคดีรับใหม่จํานวน 9,910 คดี โดย ศาลจังหวัดพิจิตร ถือเป็นศาลขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเขตอํานาจของสํานักงานอธิบดี ผู้พิพากษาภาค 6 ซึ่งความพร้อมของการบริหารจัดการคดีให้เป็นไปด้วยความรวดเร็วและสะดวกต่อผู้มีอรรถคดีนั้น ได้นําเทคโนโลยีสารสนเทศซึ่งช่วยส่งเสริมงานตุลาการมาใช้และให้บริการส่วนต่างๆ ได้อย่างครอบคลุม