นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง โครงการ "ทัวร์เที่ยวไทย" ว่าจะช่วยเยียวยาผู้ประกอบการและบุคลากรในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ส่งเสริมการเดินทางข้ามจังหวัด/ภูมิภาค เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้ลงไปในท้องถิ่นและชุมชน รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณสำหรับแพกเกจเดินทางท่องเที่ยวในวันธรรมดา (วันอาทิตย์-วันพฤหัสบดี) ที่มีระยะเวลาการเดินทางอย่างน้อย 3 วัน 2 คืน และข้ามจังหวัด โดยสนับสนุน 40% แต่ไม่เกิน 5,000 บาท 1 คนต่อ 1 สิทธิ์ ผ่านบริการของบริษัทนำเที่ยวในประเทศที่มีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อพลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวตลอดห่วงโซ่อุปทาน อาทิ บริษัทนำเที่ยว โรงแรมที่พัก ธุรกิจด้านการขนส่ง ธุรกิจร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องให้มีรายได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 12,500 ล้านบาท เกิดการกระจายรายได้จากโครงการทัวร์เที่ยวไทยในทางอ้อมอีกไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาท
สำหรับขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านเว็บไซต์ (www.ทัวร์เที่ยวไทย.ไทย) ซึ่งกำลังจะเปิดให้ลงทะเบียนในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้ ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวต้องให้ความยินยอม (consent) สมัครบัญชีถุงเงิน ณ สาขา ธนาคารกรุงไทย ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์ (www.ทัวร์เที่ยวไทย.ไทย) ททท. และกรมการท่องเที่ยวจะตรวจสอบความถูกต้อง นำเสนอรายการนำเที่ยว (แบ่งประเภท รูปแบบการให้บริการ ราคาและเงื่อนไขการเดินทาง โดยมีคณะทำงานตรวจสอบคุณภาพและความคุ้มค่า รายการนำเที่ยวปรากฏบนเว็บไซต์ต้องแสดงรายละเอียด (ชื่อโรงแรม/ร้านอาหาร) หลังผ่านการอนุมัติจากคณะทำงาน
สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการฯ ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ต้องให้ความยินยอม (consent) ติดตั้งแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" เลือกรายการนำเที่ยวทางเว็บไซต์ (www.ทัวร์เที่ยวไทย.ไทย) ติดต่อบริษัทนำเที่ยว ชำระค่ารายการนำเที่ยว 60% แก่บริษัทนำเที่ยว เดินทางท่องเที่ยวโดยมีการสแกนใบหน้าและ QR Code เพื่อยืนยันตัวตน
นายอนุชา กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่ไทยได้รับการจัดอันดับจาก Global COVID-19 Index (GCI) เป็นอันดับ 1 ของโลกในการฟื้นตัวของจากสถานการณ์โควิด-19 จาก 184 ประเทศทั่วโลก และติด 1 ใน 5 ประเทศที่บรรเทาการระบาดของไวรัสได้ก้าวหน้าที่สุด รวมทั้งแผนการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่เริ่มต้นแล้วและเป็นไปตามเป้าหมาย แสดงถึงความพร้อมด้านสาธารณสุขของไทย ประชาชนเชื่อมั่นและมั่นใจความปลอดภัยในการเดินทาง
ทั้งนี้ มาตรการ "ทัวร์เที่ยวไทย" และ "เราเที่ยวด้วยกัน" จะช่วยสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวตลอดห่วงโซ่ ทั้งโรงแรม ผู้ประกอบ และแรงงานภาคการท่องเที่ยวกว่า 4.3 ล้านคน กลับมาคึกคักอีกครั้ง