นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลทำให้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ปี 2563 ติดลบ 6% ซึ่งถือว่าติดลบน้อย เนื่องจากไทยพึ่งพาการท่องเที่ยวและการส่งออกกว่า 20% เมื่อมีการปิดประเทศในช่วงแรก จึงทำให้ไทยไม่มีรายได้จากต่างประเทศเข้ามา ส่งผลให้เศรษฐกิจในปี 2563 ติดลบ
สำหรับการจ้างงานถือว่ามีผลกระทบน้อยมาก เนื่องจากมีการว่างงานเพียง 1.7% เท่านั้น พร้อมระบุว่า อยากให้ภาคประชาชนมีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจอีกทางหนึ่งด้วย โดยจากการสำรวจพบว่า ตัวเลขการออมเงินของคนไทยสูงขึ้นกว่า 11% หรือเป็นวงเงินประมาณ 1.5-1.6 แสนล้านบาท จึงอยากให้นำออกมาใช้จ่ายเพื่อช่วยผู้ที่ได้รับผลกระทบ
ทั้งนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ประเมินว่า จีดีพีในปีนี้จะเติบโต 2.7% เนื่องจากยังได้รับผลกระทบจากการท่องเที่ยว ที่ยังไม่กลับมา แต่รัฐบาลได้วางเป้าหมายไว้ที่ 4% แต่จากการคาดการณ์มองว่าปี 2564 จีดีพีไทยจะโต 3% ยังขาด 1% หรือเป็นวงเงินประมาณ 1 แสนล้านบาท จึงอยากให้ทุกคนช่วยกัน และดำเนินการตามมาตรการของรัฐ เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้า และเชื่อว่าเป็นเรื่องที่คนไทยทุกคนช่วยกันได้
สำหรับการจ้างงานถือว่ามีผลกระทบน้อยมาก เนื่องจากมีการว่างงานเพียง 1.7% เท่านั้น พร้อมระบุว่า อยากให้ภาคประชาชนมีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจอีกทางหนึ่งด้วย โดยจากการสำรวจพบว่า ตัวเลขการออมเงินของคนไทยสูงขึ้นกว่า 11% หรือเป็นวงเงินประมาณ 1.5-1.6 แสนล้านบาท จึงอยากให้นำออกมาใช้จ่ายเพื่อช่วยผู้ที่ได้รับผลกระทบ
ทั้งนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ประเมินว่า จีดีพีในปีนี้จะเติบโต 2.7% เนื่องจากยังได้รับผลกระทบจากการท่องเที่ยว ที่ยังไม่กลับมา แต่รัฐบาลได้วางเป้าหมายไว้ที่ 4% แต่จากการคาดการณ์มองว่าปี 2564 จีดีพีไทยจะโต 3% ยังขาด 1% หรือเป็นวงเงินประมาณ 1 แสนล้านบาท จึงอยากให้ทุกคนช่วยกัน และดำเนินการตามมาตรการของรัฐ เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้า และเชื่อว่าเป็นเรื่องที่คนไทยทุกคนช่วยกันได้