นายชวินทร์ ศิรินาค รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา นายจ้างสถานประกอบการในพื้นที่เขตบางขุนเทียนได้นำลูกจ้างที่เป็นแรงงานต่างด้าว จำนวน 7 คน ไปตรวจสุขภาพเพื่อทำการขอต่อใบอนุญาตทำงาน ปรากฏว่ามีลูกจ้างติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 2 คน จึงนำลูกจ้างที่เหลืออีก 71 คน ไปตรวจเพิ่มเติม พบมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 28 คน รวมเป็น 30 คน
กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานเขตบางขุนเทียน ศูนย์บริการสาธารณสุข 42 ถนอม ทองสิมา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สอบสวนโรคเพิ่มเติม เบื้องต้นทราบว่าแรงงานต่างด้าวของสถานประกอบการดังกล่าวส่วนใหญ่มีการเช่าห้องพักอาศัยรวมกันอยู่บริเวณหมู่บ้านอมรชัย 4 พระรามที่ 2 ซอย 75 เขตบางขุนเทียน จึงจัดหน่วยเคลื่อนที่ทำการตรวจคัดกรองหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากกลุ่มเสี่ยงเพิ่มเติม ด้วยวิธี SWAB แก่ผู้ที่พักอาศัยอยู่บริเวณหมู่บ้านอมรชัย 4 พระรามที่ 2 ซอย 75 ซึ่งได้แบ่งทีมตรวจออกเป็น 2 ทีม โดยได้รับพระกรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย จำนวน 2 คัน และเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาล PMG ซึ่งเป็นโรงพยาบาลในพื้นที่ร่วมเก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อ สามารถรองรับการตรวจหาเชื้อได้ประมาณ 1,000 คนต่อวัน
สำหรับหมู่บ้านอมรชัย 4 คาดว่ามีผู้พักอาศัยประมาณ 1,500–1,700 คน คนไทยบางส่วนที่มีความพร้อมได้เดินทางไปตรวจหาเชื้อและชำระค่าตรวจด้วยตนเองที่โรงพยาบาลบ้างแล้ว หากวันนี้ยังตรวจได้ไม่ครบ ก็จะตรวจเพิ่มเติมในวันพรุ่งนี้
นอกจากการลงพื้นที่ตรวจหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากกลุ่มเสี่ยงในวันนี้แล้ว กรุงเทพมหานครยังจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สอบสวนโรคจากสมาชิกในครัวเรือนของผู้ติดเชื้อ พร้อมให้คำแนะนำในการเฝ้าระวังกับผู้ที่สัมผัสเสี่ยงเพิ่มเติมด้วย โดยหากเป็นผู้มีความเสี่ยงสูงหรือสัมผัสเสี่ยงแนะนำให้กักตัวและสังเกตอาการของตนเองอยู่ที่บ้านตามระยะเวลาที่กำหนด ส่วนผู้เสี่ยงต่ำหรือตรวจแล้วไม่พบการติดเชื้อก็ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด อาทิ การสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำสบู่ แอลกอฮอล์ล้างมือหรือเจลแอลกอฮอล์บ่อย ๆ เลี่ยงการไปในพื้นที่เสี่ยงหรือสถานที่ที่มีการรวมตัวกันจำนวนมาก หากไม่สามารถเลี่ยงได้ให้มีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล เป็นต้น เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันตนเองจากการติดโควิด-19