นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราขการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยนายแพทย์สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ร่วมกันแถลงข่าวกรณีมีผลตรวจยืนยันพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ท่ามกลางความสนใจจากบุคลากรทางการแพทย์และสื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังจำนวนมาก
ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ผู้ป่วยรายดังกล่าวเป็นชาวนอร์เวย์ อายุ 74 ปี เดินทางเข้าประเทศไทยผ่านสนามบินสุวรณภูมิ เมื่อวันที่ 5 มีนาคม จากนั้นเข้ารับการกักตัวในสถานที่ที่รัฐกำหนด เป็นเวลา 14 วัน โดยในวันที่ 7 มีนาคม เข้ารับการตรวจเชื้อครั้งแรก ไม่พบการติดเชื้อ และเข้ารับการตรวจเชื้อครั้งที่ 2 ในวันที่ 17 มีนาคม ไม่พบการติดเชื้อเช่นกัน เมื่อครบกำหนดการกักตัวในวันที่ 20 มีนาคม เจ้าตัวเดินทางกลับขอนแก่นทันที โดยลงเครื่องที่สนามบินขอนแก่น ในวันที่ 20 มีนาคม ไฟลต์เที่ยง โดยมีลูก 2 คน เดินทางมารับและกลับบ้านที่จังหวัดข้างเคียงกับขอนแก่น
กระทั่งวันที่ 21 มีนาคม ผู้ป่วยเริ่มมีอาการบ่งชี้ โดยเฉพาะปวดเมื่อยตามร่างกาย จึงให้ครอบครัวเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งของ จ.ขอนแก่น แต่ด้วยมาตรฐานคุมเข้มที่จังหวัดกำหนดไว้อย่างเข้มงวด ซึ่งผู้ป่วยทุกรายจะต้องรายงานข้อมูลต่างๆ ให้กับเจ้าหน้าที่ได้รับทราบ ซึ่งโรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้ได้ซักประวัติและตรวจหาเชื้อซ้ำอีกครั้ง ผลยืนยันติดเชื้อโควิด-19 ในช่วงค่ำ จึงมีการส่งต่อการรักษามาที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ตามระบบการส่งต่อผู้ป่วยที่เข้มงวดทันที
ทางด้านนายแพทย์สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ทุกขั้นตอนเมื่อผู้ป่วยถึงทีมแพทย์ ตั้งแต่โรงพยาบาลเอกชน และส่งต่อมายังโรงพยาบาลศรีนครินทร์ เป็นไปตามขั้นตอนการปฏิบัติงานที่เข้มงวด ตามมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด ทำให้ขณะนี้ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 รายที่14 ของ จ.ขอนแก่น อยู่ในการดูแลของทีมแพทย์ตามขั้นตอนของการรักษาแล้ว ขณะเดียวกัน ทีมสอบสวนโรคได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบไทม์ไลน์ผู้ป่วยอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่การเดินทางมาที่ขอนแก่น ด้วยสายการบินแห่งหนึ่ง ซึ่งผู้ที่นั่งใกล้ชิดกับผู้ป่วยคือ 3 แถวหน้าและ 3 แถวหลัง จะต้องเข้ารายงานตัวและเข้ารับการตรวจเชื้อทันที
ขณะเดียวกัน กลุ่มเสี่ยงสูง 2 คน คือคนในครอบครัวของผู้ป่วยนั้นขณะนี้ได้มีการเข้ารายงานตัวและเข้ารับการตรวจเชื้อกับทางแพทย์แล้ว ส่วนกลุ่มเสี่ยงต่ำ 17 คน ขณะนี้ทยอยเข้ารายงานตัวและเข้ารับการตรวจอย่างต่อเนื่องเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทีมสอบสวนโรคจะลงพื้นที่ที่บ้านของผู้ป่วย รวมทั้งการซักรายละเอียดต่างๆ อย่างละเอียด เพื่อให้มาตรการควบคุมและป้องกันและการควบคุมพื้นที่เป็นไปอย่างรัดกุม