นายแพทย์โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เริ่มฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเสี่ยงใน 13 จังหวัดเป้าหมายระยะแรก ซึ่งตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 18 มีนาคม 2564 มีผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนสะสม 61,791 ราย เป็นผู้ชาย 35.5% ผู้หญิง 64.5% อายุเฉลี่ย 44 ปี โดยเป็นบุคลากรทางการแพทย์ 50.25% เจ้าหน้าที่ด่านหน้า รวม อสม. 11.08% ผู้มีโรคประจำตัว 6.26% ประชาชนกลุ่มเสี่ยงทั่วไป 32.39% และผู้สูงอายุ60 ปีขึ้นไป ฉีดไปแล้ว 0.02% (ข้อมูล Official Line หมอพร้อม ณ วันที่ 19 มีงคง64 เวลา 15.48 น.) และหลังจากเริ่มฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าแล้ว มีรายงานเป็นผื่นลมพิษ 2 ราย หลังฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นอาการที่พบได้ในการฉีดวัคซีนทั่วไป
นายแพทย์โสภณ เปิดเผยว่า มีผลวิจัยยืนยันชัดเจนว่าวัคซีนโควิดมีประโยชน์ในเรื่องของการลดการป่วยและลดการเสียชีวิต และยังมีข้อมูลที่น่าสังเกตในกลุ่มผู้เสียชีวิตในการระบาดระลอกใหม่ ซึ่งเป็นผู้ชายมากถึง 22 ราย สูงกว่าผู้หญิงที่พบเพียง 7 ราย ขณะที่ผู้ที่มารับการฉีดวัคซีนกลับกลายเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย จึงขอเชิญชวนผู้ชายในพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัว เข้ารับการฉีดวัคซีนทันทีเมื่อได้รับการติดต่อนัดหมาย เพื่อให้มั่นใจว่าวัคซีนจะช่วยลดความรุนแรงของโรค ลดการเสียชีวิต ลดการป่วยที่ต้องนอนในโรงพยาบาล และสามารถดูแลคนในครอบครัวต่อไป