ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก “Yong Poovorawan” ระบุว่า“โควิดวัคซีน อาการข้างเคียง อาการเกิดร่วมด้วย อาการไม่พึงประสงค์
โควิดวัคซีนเป็นวัคซีนใหม่ และให้ในหมู่มาก ได้ผ่านการศึกษา ระยะ1 , 2 และ3 ในประชากรหลักหมื่น มาแล้วทั้งนั้น ก่อนที่จะมาใช้จริงในมนุษย์ เมื่อมีการนำมาใช้ จะต้องมีการติดตามอาการข้างเคียง อาการเกิดร่วมด้วย และอาการไม่พึงประสงค์ ต่อไปอีกอย่างน้อย 2 ปี
แต่โรคโควิด-19 เป็นภาวะฉุกเฉินและทำให้มนุษย์เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 2.5 ล้านคน จึงต้องเร่งในการป้องกัน
เมื่อให้วัคซีนในหมู่มาก (ขณะนี้ให้ไปแล้วมากกว่า 330 ล้านโดส) จะต้องพบอาการอย่างอื่นร่วมด้วย อาการไม่พึงประสงค์ เช่น การเสียชีวิต หรือโรคร้ายแรงหลังการให้วัคซีนแน่นอน เพราะการให้ล้านคน เมื่อพบอาการร้ายแรงทุกชนิด หรืออาการผิดปกติที่พบขึ้นมา จะต้องหาข้อสรุปว่า เป็นอาการข้างเคียงของวัคซีนหรือไม่
ปกติอาการข้างเคียง เช่น เจ็บ ปวด บริเวณฉีด เมื่อย มีไข้ พบได้อยู่แล้วในการให้วัคซีน แต่อาการร้ายแรงต่างๆ ต้องแยกให้ได้ ว่าเป็นอาการเกิดร่วมด้วย พอดีกับการฉีดวัคซีน หรือมีสาเหตุจากวัคซีน
การเกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ของการแข็งตัวของเลือดในยุโรป ก็จำเป็นต้องหาว่าเกิดจากวัคซีน หรือเป็นอาการที่พบร่วมด้วย
ขณะนี้มีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า น่าจะเป็นอาการที่พบร่วมด้วย และเมื่อสรุปแน่นอนในไม่กี่วันข้างหน้า ประเทศไทยก็จะดำเนินการต่อในการให้วัคซีนอย่างแน่นอน
การแข็งตัวของเลือดในหลอดเลือดดำ พบได้ในคนยุโรปและอัฟริกา มากกว่าเอเชียอยู่แล้ว การนั่งนาน เช่น ขึ้นเครื่องบินจึงมีคำแนะนำเสมอให้บริหารร่างกายระหว่างนั่ง และรับประทานน้ำเยอะขึ้น”