นางโลเรนซ์ บูน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ขององค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ หรือ โออีซีดี (OECD) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าของโครงการแจกจ่ายวัคซีนต้านโควิด-19 และการที่วุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ จะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจโลกขยายตัวในอัตราร้อยละ 5.6 ในปีนี้ และร้อยละ 4 ในปีหน้า ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มจากรายงานเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว (2563) ที่คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจน่าจะขยายตัวร้อยละ 4.2 ในปีนี้ และร้อยละ 3.7 ในปีหน้า
หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของโออีซีดี กล่าวว่า การกระจายวัคซีนมีผลโดยตรงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก เพราะจะหมายถึงการที่แต่ละประเทศกลับมาดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ นอกจากนี้ โครงการฉีดวัคซีนที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็วยังเป็นการป้องกันการกลายพันธุ์ของไวรัส ขณะที่แผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ยังช่วยให้มีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในประเทศและส่งผลต่อผู้ผลิตทั่วโลก โดยโออีซีดีคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัวที่อัตราร้อยละ 6.5 ในปีนี้ และร้อยละ 4 ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มจากการคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.2 และร้อยละ 3.5 ที่รายงานไว้ก่อนหน้านี้
พร้อมกันนี้ ยังเรียกร้องให้ยุโรปเร่งโครงการฉีดวัคซีน ก่อนที่จะผ่อนคลายมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะหากประชาชนยังไม่ได้รับวัคซีนที่สำคัญก็ยังไม่ควรดำเนินชีวิตตามปกติ สิ่งที่สำคัญเวลานี้คือการผสมผสานระหว่างนโยบายด้านสุขภาพและการคลัง