จากกรณีเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเรื่อง คลังโยกเงินกู้ฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม 87,100 ล้านบาท ไปใช้ในโครงการเยียวยาประชาชน ทางสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลังได้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า มาตรา 5 และ 6 แห่ง พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 พ.ศ. 2563 (พ.ร.ก. COVID-19) วงเงิน 1 ล้านล้านบาท กำหนดให้กระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อวัตถุประสงค์ 3 ด้าน ได้แก่
- แผนงานที่ 1 ด้านการแพทย์และสาธารณสุข วงเงิน 45,000 ล้านบาท
- แผนงานที่ 2 ด้านการช่วยเหลือและเยียวยา วงเงิน 550,000 ล้านบาท
- แผนงานที่ 3 ด้านการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม วงเงิน 400,000 ล้านบาท
โดยคณะรัฐมนตรีสามารถนำวงเงินกู้ตามแผนงานที่ 3 มาใช้ในแผนงานที่ 1 และ 2 ได้หากมีความจำเป็น แต่ไม่สามารถนำวงเงินภายใต้แผนงานที่ 1 และ 2 มาใช้ในแผนงานที่ 3 ได้
ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้นำวงเงินกู้เพื่อการดำเนินการภายใต้แผนงานที่ 3 ไปใช้ในแผนงานที่ 2 เพื่อรองรับการให้ความช่วยเหลือ เยียวยา ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ในประเทศ จำนวน 2 ครั้ง วงเงินรวมทั้งสิ้น 45,000 ล้านบาท คือ วันที่ 19 มกราคม 2564 จำนวน 10,000 ล้านบาท เพื่อใช้สมทบโครงการเราชนะ และวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 จำนวน 35,000 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับเยียวยาผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ภายใต้โครงการมาตรา 33 เรารักกัน
ดังนั้น นับตั้งแต่ พ.ร.ก. COVID-19 มีผลบังคับใช้จนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2564 คณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติให้นำวงเงินกู้ภายใต้ พ.ร.ก. COVID-19 แผนงานที่ 3 การฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ไปใช้ในแผนงานที่ 2 ช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 จำนวน 2 ครั้ง วงเงินรวมทั้งสิ้น 45,000 ล้านบาทมิใช่ 87,100 ล้านบาท
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจาก สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ สามารถติดตามข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ www.pdmo.go.th หรือโทร. 02-265-8050