พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการดูแลความสงบเรียบร้อยเหตุการณ์การชุมนุมกลุ่มราษฎรโขงชีมูล ที่นัดรวมตัวทำกิจกรรมกันภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ก่อนจะเคลื่อนขบวนไปยัง สภ.ย่อย มข. เพื่อประณามตำรวจที่ใช้กำลังสลายการชุมนุมที่หน้ากรมทหารราบที่ 1 ถนนวิภาวดีรังสิต เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา และเกิดการกระทบกระทั่งกันจากการพยายามขัดขวางของเจ้าหน้าที่ที่สั่งให้ยุติการชุมนุม ทำให้เกิดการยื้อแย่งโล่และกระบอง และพยายามที่จะบุกเข้าไปภายใน สภ.ย่อย มข. ว่า ตำรวจมีหน้าที่ในการดูแลความสงบเรียบร้อย เน้นการป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งยอมรับว่าเป็นเรื่องยากในการควบคุมสถานการณ์ไม่ให้บานปลาย โดยเฉพาะการชุมนุมที่ไม่มีแกนนำ เนื่องจากในฝั่งชุมนุมจะไม่มีคนควบคุมสถานการณ์ ซึ่งยากต่อการเจรจาให้การชุมนุมสงบเรียบร้อยเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งได้ฝากให้ผู้ที่จะไปร่วมการชุมนุมไตร่ตรองให้รอบคอบ ระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยหากจะไปร่วมการชุมนุมด้วย
ส่วนเรื่องการดูแลความสงบเรียบร้อยในการชุมนุม ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมของกลุ่มใดก็ตาม ตำรวจจะยึดหลักการป้องกันเป็นสำคัญ ไม่มีนโยบายเข้าสลายการชุมนุม หรือบุกทำร้ายกลุ่มผู้ชุมนุมก่อน
ส่วนแนวทางกำหนดแผนการรักษาความปลอดภัย จะพิจารณาตามข้อมูลด้านการข่าวของแต่ละพื้นที่ เพื่อจัดกำลังตำรวจดูแลความสงบเรียบร้อยให้เหมาะสม และปรับแผนการรับมือตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง หากสถานการณ์มีการใช้ความรุนแรง ตำรวจก็จำเป็นต้องรับมือให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ส่วนที่พบว่ามีภาพของตำรวจใช้ความรุนแรงในการควบคุมสถานการณ์ ก็ต้องการให้ดูบริบทของสถานการณ์ทั้งหมด ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร เพราะการดูแค่ภาพเพียงมุมเดียว หรือบางช่วงของสถานการณ์ จะทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริง
สำหรับเรื่องความปลอดภัยของตำรวจที่ไปปฏิบัติหน้าที่ เมื่อวานนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือและกำชับแนวทางการดูแลความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมต่างๆ รวมถึงเรื่องการพิจารณายุทโธปกรณ์ป้องกันของตำรวจ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ยุทโธปกรณ์ควบคุมฝูงชนของตำรวจที่ใช้ในปัจจุบัน เป็นยุทโธปกรณ์ที่ได้รับอนุญาต เป็นไปตามมาตรฐานสากล ไม่มีอันตรายถึงแก่ชีวิต