นายแพทย์อภิชาต วชิรพันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดู กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ที่วันนี้ (28 ก.พ.) เริ่มมีการฉีดวัคซีนให้กับจังหวัดกลุ่มเสี่้ยงสูง ว่า วัคซีนทุกขวดที่ถูฉีดนั้นจะมีซีเรียลนัมเบอร์อยู่ ซึ่งจะถูกบันทึกไว้ว่าหมายเลขใดได้ฉีดให้ใคร และจากนั้นทุกขวดที่ฉีดไปแล้วจะถูกเก็บไว้เก็บไว้ในตู้เย็นของสถานพยาบาลเป็นเวลา 30 วัน เพื่อติดตามสถานการณ์ หากพบปัญหา จะได้มีสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้
ขณะที่นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า สรุปข้อมูลเมื่อช่วงเวลา 12.00 น. สถาบันบำราศนราดูร ฉีดวัคซีนแล้ว 95 คน ที่จังหวัดสมุทรสาครฉีดไป 159 คน ยังไม่พบรายใดที่มีอาการข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนแต่อย่างใด
ด้าน ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญศูนย์เด็ก (โรคติดเชื้อ) โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ กล่าวว่า วันนี้ทั่วโลกมีการฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 236 ล้านโดส ซึ่งการที่ประเทศไทยเริ่มฉีดวัคซีนวันนี้ ไม่ถือว่าเร็วหรือช้าเกินไป แต่การที่เราฉีดในวันนี้มีข้อดีคือ เราได้เห็นผลดี-ผลเสียจากประเทศที่มีการฉีดไปแล้ว ซึ่งวัคซีนที่ฉีดในไทย 2 ชนิด คือ ซิโนแวค และแอสตร้าเซนเนก้า นั้นถือว่ามีความปลอดภัยมาก ไม่ปรากฏผลข้างเคียงรุนแรง มีมีเพียงการเจ็บบริเวณที่ฉีด ปวดเมื่อย ครั่นเนื้อครั่นตัว บางคนอาจจะมีอาการเป็นไข้ คลื่นไส้ อาเจียนด้วยนิดหน่อย อย่างไรก็ตาม นอกจากการติดตามอาการของผู้รับวัคซีนผ่านระบบที่วางไว้แล้วนั้น ขณะนี้ได้มีการเกาะติดสถานการณ์ในโรงพยาบาลอย่างใกล้ชิด ว่ามีโรค หรือภาวะใดๆ ที่เกิดขึ้นนั้นจะมีความเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่ อย่างไร เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ ประมวลผลต่อไป