ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง เชื่อมั่น นายกฯ ปรับ ครม. ใหม่ กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,597 ตัวอย่าง
ประเด็นที่น่าพิจารณา คือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 98.3 ระบุ คนไทยทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน แต่ต่างกันที่อุดมการณ์และแนวทางวิธีถึงเป้าหมาย ในขณะที่ร้อยละ 97.2 ระบุ เชื่อมั่นต่อกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง มีเป้าหมายเดียวกัน คือ ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ไม่ติดหล่ม วิกฤตซ้ำซาก และร้อยละ 95.2 ระบุ การพาคนลงถนน นำไปสู่ความขัดแย้ง ความแตกแยกของคนในชาติ
ที่น่าเป็นห่วงคือ ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 96.4 เสียความเชื่อมั่น ศรัทธาเสื่อมเมื่อเห็นพรรคการเมืองที่เคลื่อนไหวแย่งตำแหน่งรัฐมนตรี ในขณะที่ร้อยละ 3.6 เท่านั้นที่ไม่เสียความเชื่อมั่น
อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 97.9 ระบุ ควรให้อิสระ ไม่กดดัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปรับคณะรัฐมนตรี ในขณะที่ร้อยละ 2.1 เท่านั้น ที่ระบุไม่ควร
ที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 63.7 ยังคงเชื่อมั่นต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หลังปรับคณะรัฐมนตรี พาประเทศพ้นวิกฤต ในขณะที่ร้อยละ 20.9 ระบุกลาง ๆ ไม่แน่ใจ และร้อยละ 15.4 ระบุไม่เชื่อมั่น
ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล กล่าวว่า ถึงเวลาหรือยังที่ฝ่ายการเมืองและกลุ่มเคลื่อนไหวต่างๆ ยึดเป้าหมายเดียวกัน คือ ทำประเทศหลุดจากการติดหล่มซ้ำซาก พ้นวิกฤตชาติต่างๆ ไปให้ได้ ด้วยการสนับสนุน เสนอแนะ แต่ไม่กดดันผู้นำประเทศให้คัดเลือกคนดี คนเก่ง คนกล้า ไปขับเคลื่อนประเทศพ้นวิกฤตชาติถึงเป้าหมายสูงสุด คือความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชนได้รับการแก้ไขจริงจังต่อเนื่อง ไม่เกิดการสูญเสียเลือดเนื้อของคนในชาติ บ้านมืองสงบสุข ไม่วุ่นวาย และสถาบันหลักของชาติเป็นที่รักของประชาชน เสนอแนะให้ทุกฝ่ายยึดเป้าหมายสูงสุดเดียวกัน และออกแบบแนวทางที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน ไม่สั่นคลอนศรัทธาของคน และเดินต่อด้วยเจตนาบริสุทธ์เพื่อชาติบ้านเมือง นำพาทุกคนพ้นวิกฤตชาติได้ ถ้าพาคนลงถนนจะนำประเทศติดหล่มซ้ำซาก เหมือนหลายประเทศที่ทำกัน