นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออกของประเทศในช่วงเดือนมกราคม 2564 พบว่าการส่งออกกลับมาเป็นบวกอยู่ที่ร้อยละ 0.35 ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนธันวาคม 2563 คิดเป็นมูลค่ากว่า 19,706.57 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ เช่นเดียวกับหลายประเทศทั่วโลกที่การส่งออกฟื้นตัวและกลับมาเป็นบวกขึ้นด้วยเช่นกัน และเป็นไปตามทิศทางเศรษฐกิจการค้าโลกที่กำลังฟื้นตัวค่อยเป็นค่อยไป หลังจากประเทศต่างๆ ทยอยผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางและการขนส่ง ส่งผลทำให้ภาคการผลิตเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และการผ่อนคลายทางการเงินและการคลังในหลายประเทศเพื่อเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้น สินค้าส่งออกของไทยหลายรายการขยายตัวได้ดี สอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐฯ และอีกหลายประเทศด้วยกัน
ขณะที่ตัวเลขการนำเข้าสินค้าในเดือนมกราคม 2564 อยู่ที่ 19,908.96 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ติดลบร้อยละ 5.24 โดยไทยยังได้ติดดุลการค้าในเดือนมกราคม 2564 อยู่ที่ 202.39 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสินค้าส่งออกที่ยังขยายตัวได้ดียังคงเป็นสินค้าในกลุ่มอาหารสดและเกษตรของไทยหลายตัวยังมีความต้องการของตลาดโลกสูงขึ้น รวมถึงสินค้าที่เกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อและลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่น ถุงมือยาง ที่ยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความต้องการยางพาราในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลดีกับราคายางพาราของไทยในช่วงนี้ดีขึ้นด้วย รวมถึงกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าของไทยก็เริ่มส่งออกได้มากขึ้น และแม้ว่าทั้งโลกรวมถึงไทย จะเผชิญกับปัญหาโควิด-19 กลับมาระบาดใหม่ก็ตาม
ทั้งนี้ สนค. คาดว่าการส่งออกไทยในช่วงครึ่งปีแรก 2564 มีแนวโน้นเริ่มกลับมาดีขึ้น น่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 3-5 และครึ่งปีหลังขยายตัวได้รัอยละ 3-4 หลังจากทั่วโลกมีวัคซีนป้องกันโควิด-19 ซึ่งจะส่งผลให้การค้าของโลกกลับมาดีขึ้น และน่าจะทำให้การส่งออกของไทยกลับมาเป็นบวกร้อยละ 4 หรือคิดเป็นมูลค่า 240,727 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเฉลี่ยต่อเดือนส่งออกเกิน 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ