รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า ทาง Johns Hopkins ก็มีแนวคิดที่เหมือนที่เคยวิเคราะห์ไป
การกลับมาของการระบาดซ้ำนั้น จะมาได้เร็วขึ้นหากกดการระบาดได้ไม่ดีพอ
ฝั่งการเมืองและธุรกิจพยายามจะเปิดเสรีการใช้ชีวิตอย่างเร็ว หลังเห็นตัวเลขลดลง แต่ยังฉีดวัคซีนไปได้ไม่มากพอ
สำหรับของเรานั้น ระลอกสองนี้สถานการณ์จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะเราไม่สามารถตัดวงจรการระบาดได้ จึงจะมีแนวโน้มเกิดการติดเชื้อไปต่อเนื่อง
กลางเดือนหน้าเป็นต้นไปจะเริ่มเห็นว่าจะมีอัตราการติดเชื้อต่อวันเป็นเช่นไร
หากดูจากข้อมูลต่างประเทศที่ติดตามมา ถ้าเป็นหลักสิบติดต่อกันไปเกิน 7-14 วัน ผมคาดการณ์ว่าจะมีระลอกถัดไปในเวลาราว 10 สัปดาห์ หรือประมาณมิถุนายน
แต่หากเป็นหลักร้อย โอกาสเกิดจะเร็วขึ้นกว่าหลักสิบ อีกประมาณ 21 วัน คือราวพฤษภาคม
ส่วนหลักพันนั้นก็จะเร็วขึ้นกว่าหลักร้อยอีก 21 วันเช่นกัน
แลกเปลี่ยนมาให้เรารับรู้ไว้ล่วงหน้า จะได้ช่วยกันป้องกันตัวอย่างเต็มที่
หากวันนี้ ศบค.คลายล็อคกิจการต่างๆ รวมถึงสถานบันเทิง ขอให้เราทุกคนใช้ชีวิตอย่างมีสติ ระลึกเสมอว่าความเสี่ยงสูงกว่าสมัยปลดล็อคระลอกแรกอย่างมาก ถ้าป้องกันตัวไม่ดี จะล้มลุกคลุกคลานกันยาว
เราไม่เหมือนอเมริกา เพราะระบบตรวจคัดกรองโรคมีทรัพยากรจำกัด แถมวัคซีนที่จะใช้นั้นก็ต่างกับเค้า และยังไม่ได้เริ่มฉีดเลยด้วยซ้ำ
การเห็นข่าวที่จะรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการเปิดเสรีการใช้ชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ ย่อมเสี่ยงสูง
การกลับมาของการระบาดซ้ำนั้น จะมาได้เร็วขึ้นหากกดการระบาดได้ไม่ดีพอ
ฝั่งการเมืองและธุรกิจพยายามจะเปิดเสรีการใช้ชีวิตอย่างเร็ว หลังเห็นตัวเลขลดลง แต่ยังฉีดวัคซีนไปได้ไม่มากพอ
สำหรับของเรานั้น ระลอกสองนี้สถานการณ์จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะเราไม่สามารถตัดวงจรการระบาดได้ จึงจะมีแนวโน้มเกิดการติดเชื้อไปต่อเนื่อง
กลางเดือนหน้าเป็นต้นไปจะเริ่มเห็นว่าจะมีอัตราการติดเชื้อต่อวันเป็นเช่นไร
หากดูจากข้อมูลต่างประเทศที่ติดตามมา ถ้าเป็นหลักสิบติดต่อกันไปเกิน 7-14 วัน ผมคาดการณ์ว่าจะมีระลอกถัดไปในเวลาราว 10 สัปดาห์ หรือประมาณมิถุนายน
แต่หากเป็นหลักร้อย โอกาสเกิดจะเร็วขึ้นกว่าหลักสิบ อีกประมาณ 21 วัน คือราวพฤษภาคม
ส่วนหลักพันนั้นก็จะเร็วขึ้นกว่าหลักร้อยอีก 21 วันเช่นกัน
แลกเปลี่ยนมาให้เรารับรู้ไว้ล่วงหน้า จะได้ช่วยกันป้องกันตัวอย่างเต็มที่
หากวันนี้ ศบค.คลายล็อคกิจการต่างๆ รวมถึงสถานบันเทิง ขอให้เราทุกคนใช้ชีวิตอย่างมีสติ ระลึกเสมอว่าความเสี่ยงสูงกว่าสมัยปลดล็อคระลอกแรกอย่างมาก ถ้าป้องกันตัวไม่ดี จะล้มลุกคลุกคลานกันยาว
เราไม่เหมือนอเมริกา เพราะระบบตรวจคัดกรองโรคมีทรัพยากรจำกัด แถมวัคซีนที่จะใช้นั้นก็ต่างกับเค้า และยังไม่ได้เริ่มฉีดเลยด้วยซ้ำ
การเห็นข่าวที่จะรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการเปิดเสรีการใช้ชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ ย่อมเสี่ยงสูง