เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ซึ่งอดีตข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์จ านวน 3 ราย ได้รับพระราชทานทุกชั้นตรา ตามข้อ 6 และ ข้อ 7 ของระเบียบส านักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พ.ศ. 2548 ดังนี้
1. นายมนัส สร้อยพลอย ตำแหน่งอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เป็นผู้ต้องคำพิพากษา ถึงที่สุดให้จำคุก ตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2562 ในกรณีร่วมกันกระทำความผิดเกี่ยวกับการทำสัญญาซื้อขายข้าว แบบรัฐต่อรัฐ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่เรียกคืนประกอบด้วยเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นมหาวชิรมงกุฎ ประถมาภรณ์ช้างเผือก ประถมาภรณ์มงกุฎไทย ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทยตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญจักรพรรดิมาลา
2. นายทิฆัมพร นาทวรทัต ตำแหน่งรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ถูกลงโทษไล่ออก จากราชการ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2558 เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยทุจริต และเป็นผู้ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก ตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2562 ในกรณีร่วมกันกระทำความผิดเกี่ยวกับการทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ที่เรียกคืนประกอบด้วยเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นประถมาภรณ์ช้างเผือก ประถมาภรณ์มงกุฎไทยทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ตริตาภรณ์ช้างเผือก และตริตาภรณ์มงกุฎไทย
3.นายอัครพงศ์ หรืออัฐฐิติพงศ์ ช่วยเกลี้ยง หรือทีปวัชระ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการ กองความร่วมมือการค้าและการลงทุน ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2558 เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบเพื่อให้ เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยทุจริต และเป็นผู้ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก ตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่ง ทางการเมือง ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2562 ในกรณีร่วมกันกระทำความผิดเกี่ยวกับการทำสัญญา ซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่เรียกคืนประกอบด้วยเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นประถมาภรณ์มงกุฎไทย ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย และตริตาภรณ์มงกุฎไทย
ทั้งนี้ บุคคลทั้ง 3 ราย เป็นผู้ถูกถอนชื่อออกจากรายชื่อผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องแล้ว
ประกาศ ณ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
รองนายกรัฐมนตรี
1. นายมนัส สร้อยพลอย ตำแหน่งอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เป็นผู้ต้องคำพิพากษา ถึงที่สุดให้จำคุก ตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2562 ในกรณีร่วมกันกระทำความผิดเกี่ยวกับการทำสัญญาซื้อขายข้าว แบบรัฐต่อรัฐ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่เรียกคืนประกอบด้วยเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นมหาวชิรมงกุฎ ประถมาภรณ์ช้างเผือก ประถมาภรณ์มงกุฎไทย ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทยตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญจักรพรรดิมาลา
2. นายทิฆัมพร นาทวรทัต ตำแหน่งรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ถูกลงโทษไล่ออก จากราชการ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2558 เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยทุจริต และเป็นผู้ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก ตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2562 ในกรณีร่วมกันกระทำความผิดเกี่ยวกับการทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ที่เรียกคืนประกอบด้วยเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นประถมาภรณ์ช้างเผือก ประถมาภรณ์มงกุฎไทยทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ตริตาภรณ์ช้างเผือก และตริตาภรณ์มงกุฎไทย
3.นายอัครพงศ์ หรืออัฐฐิติพงศ์ ช่วยเกลี้ยง หรือทีปวัชระ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการ กองความร่วมมือการค้าและการลงทุน ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2558 เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบเพื่อให้ เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยทุจริต และเป็นผู้ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก ตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่ง ทางการเมือง ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2562 ในกรณีร่วมกันกระทำความผิดเกี่ยวกับการทำสัญญา ซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่เรียกคืนประกอบด้วยเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นประถมาภรณ์มงกุฎไทย ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย และตริตาภรณ์มงกุฎไทย
ทั้งนี้ บุคคลทั้ง 3 ราย เป็นผู้ถูกถอนชื่อออกจากรายชื่อผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องแล้ว
ประกาศ ณ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
รองนายกรัฐมนตรี