xs
xsm
sm
md
lg

ธนารักษ์เล็งยกเลิกเวนคืนที่ดินสร้างทางเข้า-ออกหมอชิตคอมเพล็กซ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ได้มีการประชุมร่วมกับกรุงเทพมหานคร กรมการขนส่งทางบก บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. และบริษัท บางกอกเทอร์มินอล จำกัด (บีเคที) เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุพหลโยธิน หรือโครงการหมอชิตคอมเพล็กซ์ ไปแล้ว โดยได้หารือถึงประเด็นข้อติดขัดต่างๆ ที่ทำให้โครงการล่าช้า ทั้งประเด็นการย้ายสถานีขนส่งหมอชิตกลับเข้ามาใช้พื้นที่ที่มีการกันไว้ 1.1 แสนตารางเมตร และการเวนคืนที่ดินโดยรอบเพื่อทำทางยกระดับเข้าออก เพื่อเร่งหาข้อยุติให้ได้โดยเร็ว

ทั้งนี้ ในส่วนของการย้ายสถานีขนส่ง เบื้องต้นอาจพิจารณาปรับรูปแบบให้ย้ายกลับมาเฉพาะในส่วนของรถโดยสารขนาดเล็ก เช่น รถตู้ เพื่อให้เหมาะสมกับขนาดพื้นที่ และลดผลกระทบทางจราจร ส่วนรถโดยสารขนาดใหญ่ รถบัสสองชั้น อาจให้อยู่ที่เดิมเพื่อลดความแออัด โดยหลังจากนี้ทางกรมการขนส่งทางบก และ บขส. เร่งหารือกับกระทรวงคมนาคม เพื่อหาข้อสรุป รวมถึงต้องหารือกับการรถไฟแห่งประเทศไทย ในขอขยายสัญญาการใช้พื้นที่หมอชิตปัจจุบันด้วย

ส่วนปัญหาการเวนคืนที่ดินโดยรอบโครงการ ซึ่งมีชาวบ้านได้รับผลกระทบและออกมาร้องเรียนจำนวนมากนั้น มีแนวทางว่าอาจจะไม่ต้องเวนคืนที่ดิน เพราะการเวนคืนถือเป็นเรื่องใหญ่ต้องใช้งบประมาณในการเวนคืนหลายพันล้านบาท และยังทำให้ชาวบ้านหลายครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน ซึ่งที่ผ่านมาชุมชนโดยรอบก็เสียโอกาสมานานแล้ว เพราะหลังจากมีข่าวจะเวนคืนก็ไม่สามารถนำพื้นที่ไปพัฒนาได้ โดยเรื่องนี้ทางกระทรวงคมนาคม และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จะไปศึกษาหาวิธีการทำทางเข้าออกที่ไม่ต้องเวนคืน หรือทำให้มีกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด

ทั้งนี้ ทั้ง 2 ประเด็นจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาและนำกลับมาเข้ามาหารือที่ประชุมในเดือนมีนาคมนี้ โดยในเรื่องการย้ายหมอชิต ทางกรมขนส่งฯก็ยืนยันว่าต้องการใช้พื้นที่ 1.1 แสนตารางเมตรอยู่ ซึ่งจากนี้จะต้องมีการสรุปให้ชัดเจนว่าจะย้ายกลับมาแบบไหน เพื่อให้ทางบีเคทีซึ่งเป็นผู้ได้สิทธิพัฒนาโครงการหมอชิตคอมเพล็กซ์ พิจารณา และออกแบบเดินหน้าโครงการต่อไป

นายยุทธนา กล่าวว่า ที่ผ่านมาโครงการมีความล่าช้ามานานกว่า 24 ปี โดยมีการเซ็นสัญญาตั้งแต่ปี 2539 ซึ่งทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าอยากให้โครงการเกิดขึ้นเร็วที่สุด โดยทางภาคเอกชนก็พร้อมรับฟังถึงแนวทางปรับรูปแบบการย้ายสถานีขนส่งใหม่เพื่อเร่งผลักดันโครงการให้เกิดขึ้น ขณะที่กรมฯก็จะรับประโยชน์จากการเก็บค่าเช่า และยังเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจทำให้เกิดย่านธุรกิจขึ้นใหม่ รวมถึงทำให้เกิดการลงทุน และการจ้างงานจำนวนมาก