xs
xsm
sm
md
lg

“ศรีสุวรรณ”บุก ป.ป.ช.จี้สอบ“คฑาเทพ”เรียกรับโครงการเจาะบ่อบาดาลพลังงานแสงอาทิตย์หรือไม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


วันนี้ (11 ก.พ.) เวลา 13.00 น.ที่สำนักงาน ป.ป.ช.นนทบุรี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางไปยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.เพื่อขอให้สอบ นายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล หัวหน้าพรรคพรคพลังไทยรักไทย กับพวก ซึ่งไปเจรจาชักชวนให้ผู้รับเหมาขุดเจาะบ่อบาดาลมารับงานในโครงการประปาบาดาลด้วยระบบพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการเกษตรในพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ และโครงการสนับสนุนสร้างบ่อบาดาลประปาโซล่าเชลล์พลังงานแสงอาทิตย์ ในราคาบ่อละ 500,000 บาท โดยอ้างว่าสามารถดึงโครงการดังกล่าวมาให้ทำได้ เพราะใกล้ชิดกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้ดูแลโครงการดังกล่าว รวมทั้งนายกรัฐมนตรีด้วยนั้น

ด้วยความเชื่อถือในชื่อเสียงของพล.อ.ประวิตร ผู้รับเหมาต่างๆ จึงได้ร่วมพูดคุยตกลงรับข้อเสนอของทีมงานของ ส.ส.หัวหน้าพรรคพลังไทยรักไทยดังกล่าว ณ ที่ทำการพรรคฯ จ.อำนาจเจริญว่าจะนำงานดังกล่าวมาให้ดำเนินการอย่างน้อย 70 บ่อ แต่มีข้อตกลงว่า เมื่อทำสัญญาว่าจ้างแล้วจะต้องจ่ายค่าคอมมิสชั่นเป็นเงินสดให้ 30% ของมูลค่างานในโครงการฯ โดยมีการเรียกรับเงินล่วงหน้าไปก่อน จำนวน 450,000 บาทก็มี 200,000 บาทก็มี 150,000 บาทก็มี ซึ่งการโอนเงินดังกล่าวจะเข้าบัญชีธนาคารของทีมงาน ส.ส.คนดังกล่าวโดยตรง ซึ่งมีหลักฐานการโอนชัดเจน

หลังจากนั้น ผู้รับเหมารายดังกล่าวได้พยายามติดตาม สอบถามถึงงานที่จะต้องดำเนินการ ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด โดยอ้างว่าต้องรอให้หัวหน้าพรรคฯประสานกับ พล.อ.ประวิตร ในรายละเอียดกันเสียก่อน ส่วนเงินที่รับมาและที่โอนมาให้ได้ส่งต่อไปยังหัวหน้าพรรคฯทั้งหมดเพื่อนำไปเคลียร์กับผู้หลักผู้ใหญ่แล้ว กระทั้งบัดนี้การดำเนินงานดังกล่าวก็ยังไม่มีคำตอบแต่อย่างใด จึงเชื่อว่าอาจถูกนักการเมือง และคนของนักการเมืองหลอกลวง ต้มตุ๋นเสียแล้ว จึงนำความมาร้องเรียนต่อสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เพื่อประสานงานเรียกร้องขอความเป็นธรรม และดำเนินการทางกฎหมายต่อไปให้ด้วย

ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจึงนำความพร้อมพยานหลักฐานดังกล่าว มาร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เพื่อไต่สวน สอบสวน ตาม พรป.ป.ป.ช.2561 ว่าการดำเนินการดังกล่าวมีข้อเท็จจริงเป็นประการใด เข้าข่ายการใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยกฎหมายและหรือทุจริตต่อหน้าที่หรือไม่ อย่างไร หากพบว่ามีพฤติการณ์ดังกล่าวจริง ให้ดำเนินการเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดตามครรลองของกฎหมายต่อไป