นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่งเสริมตลาดทุนไทยให้เกิดการพัฒนาที่ยังยืนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตลาดทุนไทยเป็นประโยชน์แก่ทุกภาคส่วนตามวิสัยทัศน์ "To Make the Capital Market ‘Work’ for Everyone" พร้อมส่งเสริมให้ภาคธุรกิจให้ความสำคัญในการดำเนินงานโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environment, Social, Governance: ESG) ไปกับการสร้างผลประกอบการที่ดี เพื่อสร้างการเติบโตอย่างสมดุลทั้งธุรกิจและสังคม (Balanced Growth)
นายภากร กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ สนับสนุนแนวทางการทำธุรกิจอย่างยั่งยืนให้แก่บริษัทจดทะเบียนทุกระดับและทุกภาคอุตสาหกรรม รวมถึงส่งเสริมเรื่องการลงทุนอย่างยั่งยืน (Sustainable Investing) ด้วยการพัฒนาและยกระดับคุณภาพการเปิดเผยข้อมูล ESG ควบคู่ไปกับการพัฒนากระบวนการรายงานข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งทั้งต่อบริษัทจดทะเบียนในการพัฒนาการดำเนินธุรกิจและสำหรับผู้ลงทุนเพื่อใช้ประกอบการวิเคราะห์และประเมินมูลค่าหลักทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยล่าสุด 11 บริษัทไทย ถูกจัดอันดับความยั่งยืนระดับ Gold class ในรายงาน "The Sustainability Yearbook 2021″ โดย S&P Global ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดจากการประเมินความยั่งยืนของบริษัททั่วโลกใน 40 ประเทศ รวมกว่า 7,000 บริษัท
สำหรับ 11 บริษัทไทยที่ติดอันดับ Gold class ประกอบด้วยบริษัทจดทะเบียน 10 บริษัท ได้แก่ 1. บมจ. บ้านปู (BANPU) 2. บมจ. บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) 3. บมจ. ไออาร์พีซี (IRPC) 4. บมจ. ปตท. (PTT) 5. บมจ. ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) 6. บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) 7. บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) 8. บมจ. ไทยออยล์ (TOP) 9. ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) 10. บมจ. ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) และ บมจ. ไทยเบฟเวอเรจ (ThaiBev)
โดยในปีนี้มี 29 บริษัทไทย ที่ได้รับการจัดอันดับใน The Sustainability Yearbook 2021 ซึ่งนับเป็นจำนวนมากเป็นลำดับที่ 7 ของโลก รองจากประเทศสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และไต้หวัน