นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลโอนเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13.8 ล้านคน วงเงิน 9,400 ล้านบาท สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ รายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินเพิ่ม 700 บาท และผู้ถือบัตรฯ ที่มีรายได้เกิน 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ได้รับเพิ่ม 675 บาท โอนเงินให้เป็นรายสัปดาห์ทุกวันศุกร์ จนกว่าครบสิทธิ
กระทรวงการคลัง ยอมรับว่า พอใจการใช้จ่ายในเศรษฐกิจฐานรากผ่านบัตรสวัสดิการฯ 1,000 ล้านบาทต่อวัน จนทำให้เกิดคำว่า "เศรษฐกิจแบบพึ่งพา" ทั้งคนใช้จ่ายและร้านค้ารายย่อย รัฐบาลจึงเดินหน้าส่งเสริมให้ร้านค้ารายย่อยและผู้ให้บริการสมัครแอปพลิเคชัน "ถุงเงิน" เพื่อร่วมโครงการ "เราชนะ" จากเดิม 1.3 ล้านราย เพิ่มอีก 1 ล้านราย หรือเพิ่มเป็น 2.4 ล้านราย รองรับการใช้จ่าย เศรษฐกิจแบบพึ่งพา
สำหรับผู้ลงทะเบียนผ่าน www.เราชนะ.com สำหรับผู้มีอาชีพอิสระ เพื่อรับโอนเงินรายละ 7,000 บาท แต่ได้รับ SMS ตอบกลับมาว่าไม่ได้รับสิทธิ แต่มั่นใจว่าตนเองเข้าข่ายได้รับเงิน เพราะกรอกชื่อ นามสกุล หรือหมายเลขบัตรประชาชน ผิดพลาด ให้เตรียมลงทะเบียนทบทวนสิทธิได้ในวันที่ 8-12 กุมภาพันธ์ 2564
ส่วนกลุ่มที่ใช้แอปฯ เป๋าตัง ผ่านโครงการคนละครึ่ง เข้าไปตรวจสอบแล้วได้รับสิทธิ "เราชนะ" แต่เป็นข้าราชการ ทั้งลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราว และรัฐวิสาหกิจ ซึ่งได้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง และเราเที่ยวด้วยกัน ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 ธนาคารกรุงไทยได้จัดทำแถบข้อความบนแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" จากนั้นให้เข้าไปตอบว่า ไม่เข้าร่วมโครงการ "เราชนะ" ไม่เช่นนั้นจะมีการเรียกเงินคืนภายหลัง เนื่องจากรัฐบาลเตรียมมาตรการอื่นช่วยเหลือเพิ่มเติม