พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการหน่วยงานความมั่นคงจับตาความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของเครือข่ายและแหล่งผลิตยาเสพติดในกลุ่มประเทศสามเหลี่ยมทองคำ หลังพบการเปลี่ยนแปลงสารเคมีตั้งต้นการผลิตยาเสพติด กลุ่มเมทแอมเฟตามีน (Methamphetamine) ส่งผลให้ปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นถึงสี่เท่า ราคายาเสพติดถูกลงและมีการลักลอบเข้าไทยมากขึ้น จากสถิติช่วงปลายปีและต้นปีที่ผ่านมา โดย พล.อ.ประวิตร กำชับฝ่ายปกครอง ทหาร และตำรวจ ทำงานใกล้ชิดกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ติดตามสถานการณ์จากแหล่งผลิตในประเทศเพื่อนบ้านและให้ความสำคัญมากขึ้นกับการสกัดกั้นลำเลียงสารตั้งต้นและยาเสพติดที่ผ่านเข้า-ออกไทยในรูปแบบต่างๆ ตามพื้นที่ชายแดนทั้งทางบกและทางน้ำ
พร้อมย้ำว่า การปราบปรามผู้มีอิทธิพลผิดกฎหมาย ยังเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่มุ่งลดความเหลื่อมล้ำสร้างความเป็นธรรมทางสังคม จึงขอให้ดำรงความเข้มข้นสืบขยายผลเชื่อมโยงและทำลายเครือข่ายผู้มีอิทธิพลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการค้ายาเสพติด ที่ยังมีธุรกรรมฟอกเงินแอบแฝงในธุรกิจรูปแบบต่างๆ โดยให้บูรณาการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อไม่ให้ยาเสพติดเป็นเหตุของการทำลายทรัพยากรบุคคลและสร้างปัญหาเกิดความเสื่อมถอยของสังคม
พล.ท.คงชีพ กล่าวเพิ่มเติมว่า การสกัดกั้นและกวาดล้างจับกุมยาเสพติดของฝ่ายความมั่นคงที่ผ่านมา ยังคงดำรงความเข้มข้นต่อเนื่องกันไป โดยเจ้าหน้าที่รัฐทุกฝ่าย ได้ร่วมกันสกัดกั้นในพื้นที่ชายแดนและกวาดล้างจับกุมในพื้นที่ชั้นใน พร้อมทั้งขยายผลนำสืบสู่การยึดทรัพย์ได้จำนวนมากตามที่ปรากฎ โดยธันวาคม 2563 - มกราคม 2564 สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้กว่า 76,000 ราย ยึดยาบ้าได้ถึง 47.5 ล้านเม็ด ยาไอซ์กว่า 1,900 กิโลกรัม เฮโรอีนกว่า 260 กิโลกรัม รวมทั้งอยู่ระหว่างขยายผลกวาดล้างทำลายเครือข่ายข้ามชาติ "ยาเคนมผง" ซึ่งระบาดในหลายพื้นที่และมีอันตรายถึงชีวิตแก่ผู้เสพที่ผ่านมา