นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Nantiwat Samart ระบุว่า คัดค้าน แก้ไข ม.112 นี่จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่จะมีการขอแก้ไขมาตรา 112 โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยมีเหตุผลว่า เพื่อลดปัญหาการใช้กฎหมายมาตรา 112 เป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้งทางการเมือง
พวกหมิ่นสถาบันฯ ประสานงานกันเหมือนวงออเครต้า เดินเกมทั้งในสภา บนถนน และคนนอกประเทศ
ยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า อย่าเอาความผิดคดีมาตรา 112 ไปเปรียบเทียบกับความผิดในกฎหมายอาญา ธรรมดา เพราะมาตรานี้มุ่งหมายปกป้องพระมหากษัตริย์ และองค์รัชทายาท และมีกฎหมายลักษณะนี้มาตั้งแต่ ร.ศ. 127 (2453) หลังเปลี่ยนแปลงการ ปกครอง รัฐธรรมนูญของคณะราษฎร 2475 ก็มีบัญญัติคุ้มครองไว้
สถาบันพระมหากษัตริย์คือเสาหลักของความมั่นคง เป็นศูนย์รวมจิตใจความเป็นชาติ มีแต่คนที่คิดจะล้มล้างสถาบันฯเท่านั้นที่พยายามจะโยกคลอนเสาหลัก นี้ ด้วยการบ่อนแซะ
มาตรา 112 ไม่ได้ทำร้ายใครเลย ถ้าหากไม่คิดที่จะจ้วงล่วงละเมิดสถาบัน พระมหากษัตริย์ไม่ใช่ ชาวบ้าน ไม่ใช่นักการเมือง ไม่ใช่คนที่จะต้องถูกติฉินนินทา วิพาก วิจารณ์ หากไม่กล่าวถึงพระองค์ก็ไม่มีความผิด แต่มีคนคันปากอยากวิพากวิจารณ์สถาบัน
อย่ามโนว่า คนที่ออกมาคัดค้านหรือต่อต้านการล่วงละเมิดสถาบัน จะทวงคืนหรือรื้อฟื้นระบอบสมบูรณา ญาสิทธิราช อย่าพยายามปลุกผี อย่ากลัวเงาตัวเอง อย่าบ้า ความพยายามในการแก้ไขมาตรา 112 เป็นความพยายามที่จะให้มีการวิพากวิจารณ์องค์พระประมุขในที่สาธารณะ โดยไม่ให้มีกฎหมายเอาผิดได้ และผลักดันให้เป็นความผิดตามกฎหมายหมิ่นประมาทซึ่งเป็นความผิดทางแพ่ง โทษทางอาญาต่ำ จำคุกไม่เกิน 1 ปี และหากแก้ไขสำเร็จ พวกพ้องที่ต้องคดี 112 จะได้รับอานิสงค์ไปด้วย จะไม่ต้องติดคุก เนื่องจากมีกฎหมายใหม่ที่เป็นคุณกับผู้ต้องคดี
เรื่องอย่างนี้ ใครๆก็รู้ทัน แต่ก็ยังน่าเป็นห่วงว่า ส.ส. ใช้เอกสิทธิในการอภิปรายพาดพิงสถาบันในสภา โดยที่พระมหากษัตริย์ถูกดึงไปเป็นเกมการเมือง เห็นด้วยกับหมอวรงค์ในการล่ารายชื่อ เพื่อคัดค้านการแก้ไขมาตรา 112