รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า สถานการณ์ทั่วโลก 4 กุมภาพันธ์ 2564
สาธารณรัฐเช็คเป็นประเทศที่ 20 ของโลก ที่ติดเชื้อเกินล้านคน
คาดว่าเนเธอร์แลนด์จะเป็นประเทศที่ 21 ภายในอีก 3-4 วัน
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 513,411 คน ขยับขึ้นมาเลยห้าแสนอีกครั้ง หลังจากดูจะลดลงไปช่วงหนึ่ง รวมแล้วตอนนี้ 104,764,563 คน ตายเพิ่มอีก 14,772 คน ยอดตายรวม 2,273,567 คน
อเมริกา ทะลุ 27 ล้านไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อวานติดเชิ้อเพิ่ม 127,101 คน รวม 27,112,245 คน ตายเพิ่มอีก 4,120 คน ยอดตายรวม 460,644 คน
อินเดีย ติดเพิ่ม 12,703 คน รวม 10,790,909 คน
บราซิล ติดเพิ่ม 66,080 คน รวม 9,296,945 คน จะแตะสิบล้านภายในเดือนนี้
รัสเซีย ติดเพิ่ม 16,474 คน รวม 3,901,204 คน
สหราชอาณาจักร ติดเพิ่มอีก 19,202 คน รวม 3,871,825 คน ต่ำกว่าสองหมื่นคนเป็นวันที่สามติดต่อกัน ยอดตายรวมขณะนี้ 109,335 คน
อันดับ 6-10 เป็น ฝรั่งเศส ตุรกี อิตาลี สเปน และเยอรมัน ส่วนใหญ่ติดกันหลายพันถึงหลายหมื่นต่อวัน
แถบอเมริกาใต้ ยุโรป เอเชีย อย่างโคลอมเบีย เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ ยูเครน แคนาดา รวมถึงอิหร่าน บังคลาเทศ อิสราเอล อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ยังติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น
มาเลเซียสถานการณ์ดูน่าเป็นห่วงมาก ตั้งแต่กลางเดือนมกราคมจนถึงปัจจุบันเฉลี่ยแล้วติดราว 4,000 คนต่อวัน ประเมินแล้วระลอกสองนี้ยาวนานกว่าค่าเฉลี่ยและค่ามัธยฐานของประเทศที่ระบาดซ้ำ (2 เท่าของของเดิม) ลักษณะการระบาดมีแนวโน้มจะยาวนานอย่างน้อยหกเดือน (3 เท่าของของเดิม) ทั้งนี้โค้งการระบาดอาจเป็นไปในลักษณะคล้ายโมร็อคโค (ระลอกสองที่ยาวนาน) หรือสาธารณรัฐเช็ค (ระลอกสองต่อด้วยระลอกสาม) คงต้องเอาใจช่วยให้เค้าคุมโรคได้โดยเร็ว
แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็ยังมีติดเชื้อเพิ่มต่อเนื่องแบบทรงตัว
เมียนมาร์ เกาหลีใต้ และไทย ติดเพิ่มหลายร้อย ส่วนจีน ฮ่องกง เวียดนาม และสิงคโปร์ ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ
เวียดนามติดเชื้อเพิ่มหลายสิบคนต่อวัน ต่อเนื่องมา 7 วันแล้ว
วิเคราะห์สถานการณ์บ้านเรา ยืนยันอีกครั้งว่า "โรคนี้ไม่กระจอก" แต่เป็นภัยคุกคามที่หนักที่สุดในรอบ 102 ปีของโลก ไม่งั้นคงไม่ติดกันไปถึง 104 ล้านคน และตายไปกว่า 2.2 ล้านคนทั่วโลกเช่นนี้
การที่เราเห็นเขียวเหลืองส้มแดงในปัจจุบันนั้น แม้จะเป็นข้อมูลชี้ให้เห็นว่าการระบาดไม่ได้แพร่ติดเชื้อกันไปทั่วทุกคนทั้งประเทศ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าระบาดซ้ำครั้งนี้รุนแรงกว่าเดิม เพราะเหตุใดลองไปคิดวิเคราะห์กันตามข้อมูลหลักฐานที่มี
อย่าลืมว่าจำนวนการตรวจต่อวันของเรานั้นน้อยกว่าประเทศอื่นๆ อย่างมาก เพราะข้อจำกัดด้านต่างๆ อย่างที่เราทราบกันดี
ดังนั้น สิ่งที่ประชาชนอย่างพวกเราจะทำได้คือ ป้องกันตัวเองอย่างเคร่งครัด
เชื่อในสิ่งที่ควรเชื่อ ทำในสิ่งที่ควรทำ
ใช้ความรู้ที่ถูกต้อง เป็นแสงส่องนำทาง
ระลึกไว้เสมอว่า วิกฤติโรคระบาดเช่นนี้ ต้องใช้สติ ปัญญา หลักเหตุและผล มาเพื่อตัดสินใจเชื่อและปฏิบัติ
บทเรียนในอดีตที่ผ่านมามีมากมายหลายเรื่อง ชีวิตของเราทุกคน เราทุกคนต้องช่วยกันปกป้อง
ใส่หน้ากากเสมอ ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างคนอื่นหนึ่งเมตร
ลดละเลี่ยงการกินดื่มในร้าน ซื้อกลับจะปลอดภัยกว่า
คอยสังเกตอาการตนเองและครอบครัว หากไม่สบายให้รีบไปตรวจรักษา
ด้วยรักต่อทุกคน