นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการสื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) เปิดเผยในการประชุมคณะอนุกรรมการสื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ ครั้งที่ 3/2564 ว่า มีการสรุปและวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะด้านอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์สภาพอากาศ ช่วงวันที่ 1-7 ก.พ.64 ลมที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังอ่อนถึงปานกลาง ทำให้แนวโน้มการสะสมของฝุ่นละออง PM2.5 เพิ่มสูงขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทั้งนี้เร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ตั้งแต่ต้นทาง ยกระดับตรวจเข้มควันดำ พร้อมขอความร่วมมือลดฝุ่นละอองจากงานก่อสร้าง การเผาในที่โล่ง
ขณะที่ กรมควบคุมมลพิษรายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เมื่อเวลา 11.00 น. คุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลางถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ ค่าฝุ่นละออง PM2.5 ตรวจพบอยู่ระหว่าง 49 - 98 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยมีพื้นที่ 69 พื้นที่ ค่าฝุ่นละออง PM2.5 เกินมาตรฐาน
สำหรับพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นละออง PM2.5 ในระดับสีแดง มีผลต่อสุขภาพ 2 พื้นที่ คือริมถนนคลองทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 อยู่ที่ 98 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และริมถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 เขตหนองแขม ค่าฝุ่นละออง PM2.5 อยู่ที่ 94 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ขณะที่ กรมควบคุมมลพิษรายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เมื่อเวลา 11.00 น. คุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลางถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ ค่าฝุ่นละออง PM2.5 ตรวจพบอยู่ระหว่าง 49 - 98 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยมีพื้นที่ 69 พื้นที่ ค่าฝุ่นละออง PM2.5 เกินมาตรฐาน
สำหรับพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นละออง PM2.5 ในระดับสีแดง มีผลต่อสุขภาพ 2 พื้นที่ คือริมถนนคลองทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 อยู่ที่ 98 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และริมถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 เขตหนองแขม ค่าฝุ่นละออง PM2.5 อยู่ที่ 94 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร