นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Nantiwat Samart ระบุว่า เ ือกอีกแล้ว
คดีที่อัยการสั่งฟ้องวัยรุ่น 3 คนที่ไปร่วมม็อบ 3 นิ้ว และร่วมในการกระทำผิดในการชุมนุมทางการเมือง และฝ่าฝืน พ.ร.ก.
ไม่เกินคาดหมาย แอมเนสตี้ก็ออกมาแถลงคัดค้านไม่เห็นด้วยกับการดำเนินคดีกับเด็กวัยรุ่น ในการแสดงออกทางความคิดเห็น
ทางการได้ประกาศห้ามการชุมนุมทั้งก่อนและระหว่างการชุมนุมว่า ผิดกฎหมาย แต่เมื่อสมัครใจที่จะชุมนุมและเสี่ยงที่จะทำผิดกฎหมาย คงต้องยอมรับความเสี่ยงต่อไป
ไม่ต้องห่วงกฎหมายระหว่างประเทศไม่ได้จำกัดสิทธิกฎหมายภายในของไทย และจะมาก้าวล่วงหรือแทรกแซงอำนาจอธิปไตยทางศาลของไทยไม่ได้
เตือนกันมาตลอดเวลาว่า เยาวชนอย่าตกเป็นเหยื่อของพวกบ่าง ที่ชักชวนเด็กและเยาวชนให้ออกไปชุมนุม เพราะรู้จุดอ่อนของคนไทยดีว่า เด็กมักจะได้รับการดูแลและมีเอกสิทธิเป็นพิเศษ นอกจากเด็กเหลือขอเท่านั้น
เรียกร้องกับรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐมาตลอด ถึงเวลาหรือยัง ที่จะไล่แอมเนสตี้ออกไปจากไทยเสียที ทำงานเป็นเครื่องมือ กลไกของรัฐต่างชาติที่ให้เงินสนับสนุน ก้าวก่าย ยุยงส่งเสริมความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศ