องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือ NASA ขยายเวลาปฏิบัติภารกิจของยานสำรวจดาวเคราะห์ 2 ลำ ได้แก่ จูโน (JUNO) และอินไซต์ (InSight) เนื่องจากค้นพบข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่สำคัญเป็นจำนวนมาก เพิ่มความเข้าใจ และกระตุ้นให้เกิดคำถามเกี่ยวกับระบบสุริยะอย่างมากมายมหาศาล
ที่ผ่านมา ยานอวกาศจูโน ค้นพบข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่สำคัญมากมายเกี่ยวกับโครงสร้างภายใน และสนามแม่เหล็กของดาวพฤหัสบดี ทำให้ทราบว่าการเคลื่อนที่ของสสารภายในชั้นบรรยากาศของดาวพฤหัสบดีมีความซับซ้อนมากกว่าที่นักวิทยาศาสตร์เคยคิดไว้
ขณะนี้ NASA ได้ขยายขอบเขตการศึกษาไปยังวงแหวน และดวงจันทร์บริวารของดาวพฤหัสบดี เช่น ไอโอ ยูโรปา และแกนีมีด ด้วยวิธีการสังเกตการณ์ และบินโฉบ (Flybys) จึงขยายภารกิจของยานอวกาศจูโนออกไปถึงเดือนกันยายน พ.ศ. 2568 หรือจนกว่ายานจะใช้การไม่ได้
ส่วนยานสำรวจอินไซต์ จะขยายภารกิจออกไปอีก 2 ปี จนถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2565 ยานสำรวจลำนี้ได้วางเครื่องตรวจวัดคลื่นไหวสะเทือน (Seismometer) บนพื้นผิวดาวอังคารบริเวณที่ยานลงจอด สามารถตรวจวัดคลื่นไหวสะเทือนที่ผ่านชั้นต่าง ๆ ได้ภายในตัวดาวอังคาร ทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถสร้างแบบจำลองโครงสร้างภายในของดาวอังคารได้แม่นยำขึ้น สำหรับการขยายภารกิจ ยานสำรวจอินไซต์จะให้ความสำคัญในการพัฒนาชุดข้อมูลคุณภาพสูงของการเกิดแผ่นดินไหวบนดาวอังคาร โดยเก็บข้อมูลจากเครื่องวัดสภาพอากาศและเครื่องวัดคลื่นไหวสะเทือนที่ฝังอยู่โดยรอบ ๆ รวมถึงตรวจวัดความร้อนและคุณสมบัติทางกายภาพบริเวณพื้นผิวดาวอังคาร
ภารกิจทั้งสองที่ขยายเวลาออกไปทำให้ NASA สามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง ใช้ต้นทุนต่ำกว่าการเริ่มภารกิจใหม่ ที่ผ่านมาการขยายเวลาภารกิจออกไป ช่วยให้ภารกิจนั้น ๆ ได้รับชุดข้อมูลในระยะยาวมากขึ้น สามารถพัฒนาชุดข้อมูลดังกล่าวให้มีคุณภาพสูงขึ้น หรือบางภารกิจสามารถบินโฉบเข้าไปยังวัตถุอื่นๆ โดยมีเป้าหมายทางวิทยาศาสตร์ใหม่ทั้งหมด ถือว่าคุ้มค่ากับงบประมาณที่ลงทุนไปอย่างแน่นอน