รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กวานนี้ (29 ม.ค.) ระบุว่า “วันนี้อาการโดยรวมของพ่อเมืองสาครยังคงตัว ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในการทำงานของปอดและระบบการหายใจโดยรวม สิ่งหนึ่งที่หวังว่าอาจช่วยกระตุ้นกำลังใจให้พลิกฟื้น คือการได้ยินเสียงและได้อยู่ใกล้ชิดกับคนคุ้นเคย รวมถึงอาจส่งผลด้านจิตวิญญาณที่ย้อนกลับมากระตุ้นระบบการรักษาสมดุลและการซ่อมสร้างแห่งกายา
เป็นครั้งแรกที่ภริยาของท่านเข้าเยี่ยมพร้อมบุตรสาวบริเวณด้านข้างผ่านกระจกห้องพัก เสียงสื่อสารผ่านอุปกรณ์ที่นำไปวางข้างหูของท่าน เป็นถ้อยคำที่เสริมสร้างพลังชีวิตให้กับคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาเกินครึ่งชีวิต ผ่านร้อนผ่านหนาวและความยากลำบากมานานัปการ รวมไปถึงถ้อยคำผ่อนคลายอารมณ์ที่แสดงถึงสายสัมพันธ์อันลึกซึ้งของครอบครัว เชื่อมั่นและศรัทธาว่า ด้วยกรรมดีที่ท่านพ่อเมืองประพฤติต่อตนเอง ต่อครอบครัว ต่อคนรอบข้าง และต่อสังคมโดยรวม จะเป็นกุศลกรรมที่หนุนนำให้ท่านฝ่าฟันอุปสรรคสุขภาพสำคัญครั้งนี้ไปได้ เช่นเดียวกับที่คู่ชีวิตคู่นี้ได้เคยร่วมประคับประคองผ่านเหตุการณ์คล้ายกันนี้มาได้ครั้งหนึ่งแล้วเมื่อหลายปีก่อน
ก่อนจากห้องพักท่านมาคงเดากันได้ว่า ต้องเล่าถึงความเป็นไปของโรงพยาบาลสนามในสมุทรสาคร ถึงวันนี้มีความคืบหน้าไปมากในการจัดตั้งให้มีศักยภาพเพียงพอ เพื่อรองรับผู้ป่วยแรงงานต่างชาติจากการเร่งตรวจเชิงรุกจำนวนหลักหลายร้อยติดกันมาหลายวัน ไม่นับรวมบางส่วนที่ใช้สถานที่เฉพาะอื่น เช่นบริเวณโรงงานที่ตรวจพบผู้ป่วย เพื่อจัดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนามเช่นเดียวกับที่ดำเนินการโดยภาคการแพทย์ของรัฐ บุคลากรในทุกโรงพยาบาลของจังหวัดสมุทรสาครขณะนี้ต้องทำงานกันหนักมาก เมื่อมีผู้ป่วยเป็นหลักหลายพันจึงต้องมีผู้ป่วยอาการรุนแรงจนถึงวิกฤตให้เข้าดูแลรักษาในโรงพยาบาลหลัก
แม้ว่าสัดส่วนต่อผู้ป่วยทั้งหมดจะน้อยกว่าระลอกแรก ต้องมีการระบายผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรือมีอาการไม่รุนแรงไปยังโรงพยาบาลในจังหวัดใกล้เคียง ส่วนรายที่อาการรุนแรงจึงส่งเข้าเครือข่ายโรงพยาบาลขนาดใหญ่ในกรุงเทพฯ แต่ขวัญและกำลังใจของพวกเขายังสุดยอด ยิ่งได้การสนับสนุนในทุกรูปแบบจากภาครัฐและภาคเอกชนนอกพื้นที่ ขอให้ภารกิจสำคัญเพื่อชาติของพวกเขาเหล่านี้ลุล่วงไปได้ด้วยดี ขอให้พวกเขาแคล้วคลาดจากเภทภัยที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างประกอบกิจที่ยิ่งใหญ่นี้ด้วยเช่นกัน”