xs
xsm
sm
md
lg

"รถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษ"สายธารแห่งน้ำพระราชหฤทัย ปวงประชาอุ่นใจ ธ ทรงประทับเคียงข้างพาพ้นภัยโควิด-19

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 เกิดขึ้นในประเทศไทย สร้างความเดือดร้อนทุกข์แสนสาหัสให้แก่ประชาชน ทั้งในเรื่องสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดด้วยทรงมีพระราชปณิธานอันตั้งมั่นที่จะทรงสืบสาน รักษา ต่อยอด พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่จะต้องดูแลประชาชนให้มีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์ อันจะนำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดี จึงทรงรับเป็นพระราชภารกิจสำคัญในการดูแลทุกข์สุขของอาณาราษฎรในพระองค์ทุกหมู่เหล่า

ดังที่ได้พระราชทานรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัยที่สามารถทำการค้นหาผู้ป่วยตรวจหาเชื้อ ณ จุดที่มีการแพร่ระบาด รวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่าง ๆ ที่จำเป็นเพื่อรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 อันเป็นภาพประจักษ์ชัดในสายตาพสกนิกรทุกหมู่เหล่าเรื่อยมา

แม้สถานการณ์ภาวะวิกฤตการแพร่ระบาดจะยังหาจุดสิ้นสุดไม่ได้ หากแต่ด้วยพระราชวิสัยทัศน์อันกว้างไกล แห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ที่ทรงให้ความสำคัญ การวิเคราะห์ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ที่จำเป็นต้องดำเนินการให้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อให้ทราบผลและจำนวนผู้ติดเชื้อ สามารถออกมาตรการหรือควบคุมสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที จึงพระราชทาน "รถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษ" แก่กระทรวงสาธารณสุข ใช้งานคู่กับรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน ค้นหาเชิงรุกแบบเบ็ดเสร็จในพื้นที่ ทราบผลรวดเร็ว แม่นยำ

รถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษ เป็นห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่ มีพื้นที่ใช้สอย 16.8 ตารางเมตร (7 เมตร x 2.4 เมตร) ภายในประกอบด้วย 3 ห้องหลัก ได้แก่ ห้องสกัดสารพันธุกรรม ห้องเตรียมน้ำยาวิเคราะห์ และห้องวิเคราะห์ผลด้วยเทคนิค PCR มีห้องบัฟเฟอร์เพื่อควบคุมและป้องกันการรั่วไหลของเชื้อโรค พร้อมกับเครื่องมือที่ติดตั้งภายในรถ ได้แก่ ตู้ปลอดเชื้อ ตู้ปฏิบัติงานพีซีอาร์ (PCR cabinet) เครื่องสกัดสารพันธุกรรมอัตโนมัติ เครื่องเพิ่มปริมาณสารพันธุกรรมดีเอ็นเอด้วยปฏิกิริยาโพลีเมอเรส (real-time PCR) วิเคราะห์ได้ 70 ตัวอย่างต่อ 1 รอบต่อเครื่อง ตู้แช่แข็ง -20 องศาเซลเซียส ตู้ทำความเย็น 4 องศาเซลเซียส ช่องส่งตัวอย่าง เครื่องเขย่าผสมสาร เครื่องปั่นเหวี่ยงตกตะกอน ไมโครปิเปต (Micropipette) ระบบยูวีฆ่าเชื้อ ระบบสื่อสารสองทาง ระบบกล้องวงจรปิด และเครื่องล้างมือแอลกอฮอล์อัตโนมัติ ด้วยสมรรถนะที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษของรถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษนี้ จึงทำให้สามารถทราบผลการตรวจหาเชื้อได้ภายใน 3 ชั่วโมง โดยไม่ต้องส่งผลกลับมาตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์หรือห้องปฏิบัติการโรงพยาบาล และมีความปลอดภัยต่อบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งในแต่ละสามารถตรวจได้ประมาณ 800-1,000 ตัวอย่างต่อวัน ด้วยเทคนิคการเพิ่มปริมาณสารพันธุกรรมดีเอ็นเอด้วยปฏิกิริยาโพลีเมอเรส หรือ PCR (Real Time Polymerase Chain Reaction) ช่วยให้การค้นหาผู้ติดเชื้อรวดเร็ว เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันควบคุมโรค

ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วยังพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดสูงสุด จึงได้มีการปรับยุทธวิธีในการตรวจเชิงรุกเพื่อหาผู้ติดเชื้อทั้งจังหวัด เพื่อนำตัวมากักแยกในโรงพยาบาล เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อต่อเนื่อง ดังนั้น สำนักงานป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง จึงได้นำรถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษพระราชทานจำนวน 1 คัน และรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทานอีกจำนวน 3 คัน พร้อมนักเทคนิคการแพทย์จิตอาสา ลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ได้ขับเคลื่อนน้ำพระราชหฤทัยแห่งความห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ของจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อเดินหน้าปูพรมเก็บตัวอย่างให้เข้าถึงได้ทุกพื้นที่ ชุมชนทุกแห่ง โรงงานทุกแห่งที่มีสภาพแออัดในการทำงาน เพื่อเสริมกำลังในการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก เก็บตัวอย่างและวิเคราะห์ผลการตรวจในพื้นที่

ขณะที่พสกนิกรชาวจังหวัดสมุทรสาคร ที่มาเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยและประทับเคียงข้างพสกนิกในยามที่หัวใจร่วงโรยเพราะโรคร้ายที่เข้ามาเยือน น้ำพระราชหฤทัยทั้งสองพระองค์เปรียบดั่งแสงทองส่องสว่างที่สร้างความอบอุ่นหัวใจให้แก่ปวงพสกนิกรทุกหมู่เหล่าได้มีกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไป

นายบัวเรียน หลักชัย อายุ 59 ปี ผู้เข้ารับการตรวจ กล่าวว่า รู้สึกดีใจและภูมิใจที่พระองค์ท่านทรงเป็นห่วงประชาชนในพื้นที่ และอุ่นใจที่พระองค์พระราชทานความช่วยเหลือเพื่อที่ประชาชนจะได้อุ่นใจและการ์ดไม่ตก โดยที่ประชาชนร่วมมือกันให้ความร่วมมือกับทางราชการ ทั้งนี้ ทราบข่าวมาจากผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จึงได้ช่วยจัดเตรียมสถานที่บริเวณสโมสรของหมู่บ้าน ก็ดีใจที่พระองค์เป็นห่วง อยากให้ประชาชนอุ่นใจ สบายใจขึ้น จะได้รู้ว่าจากการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เราก็สามารถป้องกันได้ส่วนหนึ่ง ก็ดีใจด้วย จึงขอขอบคุณพระองค์ท่านที่เป็นห่วงราษฎรทุกคน

ด้านนายทุย หมั่นมา อายุ 79 ปี ผู้เข้ารับการตรวจ กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจที่ในหลวงรัชกาลที่ 10 ท่านช่วยประชาชน พระราชทานรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย และรถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษ ตนทราบข่าวมาจากทางจังหวัดว่าจะมีการตรวจ จึงได้เดินทางมา ขอพระองค์ทรงพระเจริญ อยู่ปกครองประเทศชาติตลอดไป

ส่วน น.ส.จันทราทิพย์ ทองทับ อายุ 17 ปี ผู้เข้ารับการตรวจ กล่าวว่า รู้สึกขอบพระคุณที่พระองค์ทรงมีพระเมตตา พระราชทานรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย และรถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษ ตนทราบข่าวจากรถกระจายเสียงในหมู่บ้านบอกว่าใครสมัครใจก็สามารถมาตรวจได้ ขอบพระคุณพระองค์ท่านที่ออกมาช่วยเหลือชาวจังหวัดสมุทรสาคร

นับเป็นความโชคดีของพสกนิกรชาวไทยอย่างแท้จริงที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ ทุกพระองค์คอยประทับเคียงข้างพสกนิกรในยามที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ให้ผ่านพ้นไปด้วยดีด้วยน้ำพระราชหฤทัยอันเปี่ยมล้นที่ทรงต้องการให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่าอยู่อย่างร่มเย็นภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร