พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดอบรมโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวนและป้องกันปราบปรามอาชญากรรมโดยใช้ระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร พร้อมเปิดเผยว่า ขณะนี้กองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินหน้าโครงการเฟสหนึ่งเสร็จสิ้นแล้ว ด้วยการติดตั้งกล้องวงจรปิด 2,500 ตัว ใน 3 พื้นที่นำร่องของกองบังคับการตำรวจนครบาล 1, 5 และ 6 จึงต้องมีการอบรมตำรวจฝ่ายสืบสวน ให้รับรู้ประสิทธิภาพของกล้อง วิธีการทำงาน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการป้องกันอาชญากรรม ซึ่งกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งนี้ จะเป็นส่วนเสริมกล้องวงจรปิดที่อยู่เดิม และเสริมจุดที่เป็นจุดบอด หรือรอยต่อพื้นที่ โดยตัวกล้องสามารถส่งภาพมาที่สถานีตำรวจ และโทรศัพท์มือถือของตำรวจฝ่ายสืบสวนแต่ละสถานีตำรวจได้ทันที โดยตำรวจแต่ละคน จะรับผิดชอบตรวจสอบกล้องวงจรปิด 8-10 ตัว เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยในพื้นที่และสภาพตัวกล้องได้ตลอดเวลา และตัวกล้องยังสามารถบันทึกภาพได้ 20 วัน พร้อมยืนยันว่า ภายในเดือนมีนาคมนี้ จะสามารถติดตั้งกล้องได้ครบ 9,138 ตัว ตามเป้าหมายของโครงการ
ด้าน พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า โครงการนี้มีการใช้งบประมาณกว่า 36 ล้านบาท ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม สร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชน ซึ่งการเก็บภาพจากกล้องวงจรปิดนี้ยังสามารถขยายเก็บข้อมูลยังระบบคลาวด์ได้และในอนาคต จะขยายโครงการไปยังตามหัวเมืองใหญ่ในจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศต่อไป