นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส. พรรคไทยศรีวิไลย์ เรียกร้องให้รัฐบาลเปลี่ยนวิธีการจ่ายเงินเยียวยาในโครงการเราชนะ ด้วยการจ่ายเป็นเงินสด เนื่องจากประชาชนได้รับความเดือดร้อนและต้องการเงินสดไปใช้จ่ายมากกว่าใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน อีกทั้งยังพบว่ามีประชาชนที่ไม่มีโทรศัพท์สมาร์ทโฟน หรือบางส่วนไม่มีโทรศัพท์มือถือเลย รวมแล้วกว่า 6 ล้านราย ดังนั้น หากจะเข้าร่วมโครงการก็จะต้องไปซื้อมือถือใหม่ จึงขอให้รัฐบาลฟังเสียงประชาชน พร้อมยกเยอรมันโมเดล ที่จ่ายเข้าบัญชีประชาชนโดยตรง หรือส่งแคชเชียร์เช็คไปตามทะเบียนบ้านในระบบกรมการปกครอง ซึ่งต่างประเทศทำแล้วประสบความสำเร็จ
ขณะเดียวกัน ขอให้รัฐบาลเพิ่มการเยียวยาให้กับบุคคลผู้ประกันตนตามมาตรา 33, 39 และ 40 ที่มีรายได้ต่ำกว่า 3 แสนบาทด้วย เนื่องจากไม่มีรายรับอื่น ตอนนี้ได้รับความเดือนร้อนมาก รวมถึง นักเรียน นักศึกษา พระสงฆ์ เพราะบุคคลเหล่านี้ก็จ่ายภาษีผ่าน Vat 7% รวมถึงนักโทษที่ญาติอาจได้รับความเดือดร้อนจนไม่สามารถดูแลได้
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวไม่ได้เป็นการกระจายรายได้ เงินร้อยละ 70 ยังคงอยู่ที่เจ้าสัวใหญ่ 2 ราย จึงอยากเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฟังเสียงของประชาชน หากนายกรัฐมนตรีไม่ดำเนินการตามข้อเสนอ ตนคงไม่มีทางเลือก นอกจากการยื่นขออภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งวันนี้ไปลงชื่อยื่นอภิปรายแล้ว และขอเวลากับฝ่ายค้านเพื่อขึ้นพูดด้วย