ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้ขยายระยะเวลาการชำระคืนเงินยืมของ บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เซ็ลทรัลแล็บไทย ทั้งต้นเงินยืมและดอกเบี้ย รวมทั้งดอกเบี้ยผิดนัดจากสัญญาเดิมนับแต่ปี 2563 ออกไปอีก 25 ปี (2563 - 2587) และให้เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการชำระคืนเงินยืมจากสัญญาเดิม โดยให้มีผลนับแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป ซึ่งมีเงื่อนไขให้บริษัทฯ ดำเนินการ ดังนี้
- พักชำระต้นเงินและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 7 ปี นับตั้งแต่ปี 2563 - 2569 โดยภาระดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นในระยะเวลา 7 ปีของช่วงพักชำระหนี้ดังกล่าว ให้บริษัทฯ นำไปเฉลี่ยทยอยชำระคืนแก่กระทรวงการคลังในช่วงชำระคืนต้นเงินยืม
- ทยอยชำระคืนต้นเงินยืม พร้อมดอกเบี้ยให้แก่กระทรวงการคลังภายในกรอบระยะเวลาชำระ 13 ปี นับตั้งแต่ปี 2570 - 2582
- ปรับอัตราดอกเบี้ยที่ต้องชำระใหม่ โดยใช้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาล (Government Bond Yield) อายุ 20 ปี ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2563 (ทศนิยมไม่เกิน 3 ตำแหน่ง) ทั้งนี้ ในการคำนวณอัตราดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นในปี 2563 ให้บริษัทฯ ยังคงใช้อัตราดอกเบี้ยตามสัญญาเดิมที่ร้อยละ 3.78 ต่อปี และจะเริ่มปรับใช้อัตราดอกเบี้ยใหม่นับตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป
- ทยอยชำระคืนดอกเบี้ยผิดนัดตามสัญญาเดิม ภายหลังการชำระคืนต้นเงินยืมเสร็จสิ้น ภายในกรอบระยะเวลาชำระ 5 ปี (ปี 2583-2587)
นอกจากนี้ ให้จัดทำสัญญาและตารางการชำระคืนเงินยืมใหม่ตามที่กระทรวงการคลังกำหนดภายใต้เงื่อนไขการปรับโครงสร้างหนี้ที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติดังกล่าวข้างต้น โดยให้คำนึงถึงสภาพคล่องของบริษัทฯ ให้มีเพียงพอต่อการดำเนินกิจการ เพื่อให้บริษัทฯ สามารถชำระคืนเงินยืมที่มีกับกระทรวงการคลังได้ทั้งหมดต่อไป ทั้งนี้ ภายใต้กรอบระยะเวลาการชำระหนี้ หากบริษัทฯ มีกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA : Earnings Before Interest Tax Depreciation and Amortization) หลังหักชำระคืนเงินยืมตามงวดชำระที่มีกับกระทรวงการคลังแล้วเกิน 100 ล้านบาท เห็นควรให้บริษัทฯ ชำระคืนเงินยืมจากกำไรก่อน ดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายส่วนเกิน 100 ล้านบาท ดังกล่าว อีกร้อยละ 50 และบริษัทฯ สามารถชำระคืนเงินยืมให้แก่กระทรวงการคลังก่อนครบกำหนดทั้งจำนวนหรือบางส่วนก็ได้
ขณะเดียวกัน มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กำกับติดตามการดำเนินกิจการของบริษัทฯ ตามแผนธุรกิจและแผนการปรับโครงสร้างหนี้อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อให้การดำเนินการของบริษัทฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถบรรลุวัตถุประสงค์การจัดตั้งและสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลต่อไป