xs
xsm
sm
md
lg

สื่อฯ ตั้งฉายาสภาฯ ปี 63 เป็น "ปลวกจมปลัก" - ยกเลิกคนดีศรีสภา

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

สื่อมวลชนประจำรัฐสภา ตั้งฉายาสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ประจำปี 2563 โดยสภาผู้แทนราษฎรได้รับฉายา ปลวกจมปลัก ซึ่งปลวกเป็นสัตว์ที่มีการแบ่งงานกันทำ เพื่อให้ตัวเองอยู่รอด สำหรับสภาผู้แทนราษฎรแล้ว มีส.ส.ที่ทำงานดุจปลวกที่ทำเพื่อความอยู่รอดของตัวเองด้วยการใช้สภาเป็นเครื่องมือ เพื่อชิงอำนาจและทำลายล้างฝั่งตรงข้าม ยิ่งนานวันก็จมปลักกลับการทำงานแบบเดิม ไม่ใช้สภาฯ เพื่อประโยชน์ในการระดมสมองและแก้ปัญหาให้กับประชาชน

วุฒิสภา ได้รับฉายา สภาปรสิต โดยในมิติทางการเมือง จะพบว่าวุฒิสภาชุดนี้ มีสภาพไม่ต่างปรสิตที่อาศัยอยู่ในรัฐสภา นอกจากไม่มีผลงานที่เห็นด้วยตาเปล่าเหมือนปรสิตแล้ว ยังนำมาซึ่งพิษภัยแก่การทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติด้วย

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้รับฉายา ครูใหญ่ไม้เรียวหัก ซึ่งตลอดปีที่ผ่านมา นายชวนยึดแนวทางความเป็นกลางในการควบคุมการประชุมสภาฯ และยังสวมบทครูใหญ่ที่ถือไม้เรียวกวดขันวินัยของ ส.ส.ที่หย่อนยาน แต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือจาก ส.ส.หลายเรื่อง สะท้อนให้เห็นว่าต่อให้ประธานสภาฯ จะยึดมั่นหลักการเพียงใด แต่ไม่อาจสร้างเปลี่ยนแปลงได้ เพราะ ส.ส.ส่วนใหญ่ไม่ให้ความสำคัญ

นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ได้รับฉายา หัวตอ รอออเดอร์ นับแต่ได้มาเป็นประมุขสภาสูง บารมีของ นายพรเพชร ลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด สมาชิกรัฐสภาไม่ค่อยให้ความยำเกรง ไม่สามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเองในหลายเรื่อง ทำให้ประธานวุฒิสภาเสมือนหัวหลักหัวตอที่ไม่มีใครสนใจแต่มีหน้าที่แค่รับคำสั่งทำงานเท่านั้น

นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้รับฉายา สุทิน คลังแสง เนื่องจากต่างเห็นตรงกันว่าบทบาทการเป็นผู้นำฝ่ายค้าน ของนายสมพงษ์ ไม่ได้โดดเด่นสมกับตำแหน่งเท่าใดนัก ตรงกันข้ามกลับเป็นนายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ทำหน้าที่ได้อย่างโดดเด่น จึงทำให้อดไม่ได้ว่า นายสุทิน คลังแสง คือ ผู้นำฝ่ายค้าน ไม่ใช่ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์

ส่วนดาวเด่นแห่งปี ได้แก่ นายสุทิน คลังแสง เพราะทำหน้าที่ได้อย่างท็อปฟอร์ม ทั้งการประชุมสภาฯ การอภิปรายสรุปประเด็นได้อย่างชัดเจน

ขณะที่ดาวดับแห่งปี ได้แก่ นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย จากกรณีเหตุการณ์ใช้มีดปลอกผลไม้กรีดแขนตัวเองกลางที่ประชุมสภาฯ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาทางการเมือง

ส่วนคู่กัดแห่งปี ได้แก่ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กับนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ กรณีที่นายมงคลกิตติ์เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่ง เพราะไม่สามารถควบคุมความสงบในบ้านเมืองได้

เหตุการณ์แห่งปี ได้แก่ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐธรรมนูญพ.ศ.2560 ได้รับการขนานนามว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่แก้ยากที่สุด โดยเฉพาะการต้องมีเสียงส.ว.สนับสนุนไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 เป็นผลให้การประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในเดือนกันยายน ไม่สามารถลงมติได้ แต่กลับตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อศึกษาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนรับหลักการ และเมื่อกลับมาประชุมรัฐสภาอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของภาคประชาชนนำโดยกลุ่มไอลอว์ได้เข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งเป็นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของภาคประชาชนครั้งแรก ขณะที่นอกสภาฯมีการชุมนุมกลุ่มสนับสนุนและคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญจนเกิดการปะทะกันเป็นระยะ

ขณะที่ วาทะแห่งปี ได้แก่ มันคือแป้ง จากการชี้แจงของของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจกรณีที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดของรัฐนิวเซาท์เวลส์ อ้างว่าเป็นเฮโรอีน 3.2 กิโลกรัม

นอกจากนี้ ได้ยกเลิก คนดีศรีสภา เป็นการถาวร เนื่องจาก เป็นเวลาหลายปีแล้วที่สื่อมวลชนประจำรัฐสภาไม่ได้มอบตำแหน่งคนดีศรีสภาให้กับสมาชิกรัฐสภา เนื่องจากท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองและปัญหาเศรษฐกิจ ไม่ปรากฎว่ามีสมาชิกรัฐสภาคนใดที่จะเป็นแบบตัวอย่างที่ดีในการทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ