นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า ที่ประชุมเห็นชอบกรอบงบประมาณ ประจำปี 2565 ตามผลการหารือของคณะกรรมการ 4 ฝ่าย ที่มีสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) โดยมีวงเงินงบประมาณทั้งสิ้น 3.1 ล้านล้านบาท ลดลงจากงบประมาณปี 2564 จำนวน 1.859 แสนล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 5.66 ภายใต้สมมติฐานอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ในปี 2565 เติบโต 3.5 เปอร์เซ็นต์ กรอบเงินเฟ้อ 1.2 เปอร์เซ็นต์ และมูลค่าต่อจีดีพี 17.328 ล้านล้านบาท ประมาณการรายได้รัฐบาลสุทธิ 2.4 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ สำนักงบประมาณจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 5 มกราคม 2564
สำหรับงบประมาณที่ใช้ดูแลสถานการณ์โควิด-19 นั้น ยังมาจาก พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท สามารถใช้ได้ถึงปี 2564 แต่ในปี 2565 หากจำเป็นต้องใช้งบประมาณเพื่อฟื้นฟูเยียวยาสถานการณ์โควิด-19 คงอยู่ในส่วนของงบกลาง ซึ่งกรอบวงเงินอยู่ในระดับ 3 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นไปตามกรอบวินัยการเงินการคลัง ซึ่งหากประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อยู่ในขั้นเลวร้ายที่สุด หรือมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก เงินมีเพียงพอที่จะเยียวยา หรือมีเงินประมาณ 2-3 แสนล้านบาท รวมกับงบกลางและงบกลางกรณีฉุกเฉินอีก รวมแล้วประมาณ 4 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ สำนักงบประมาณจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 5 มกราคม 2564
สำหรับงบประมาณที่ใช้ดูแลสถานการณ์โควิด-19 นั้น ยังมาจาก พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท สามารถใช้ได้ถึงปี 2564 แต่ในปี 2565 หากจำเป็นต้องใช้งบประมาณเพื่อฟื้นฟูเยียวยาสถานการณ์โควิด-19 คงอยู่ในส่วนของงบกลาง ซึ่งกรอบวงเงินอยู่ในระดับ 3 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นไปตามกรอบวินัยการเงินการคลัง ซึ่งหากประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อยู่ในขั้นเลวร้ายที่สุด หรือมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก เงินมีเพียงพอที่จะเยียวยา หรือมีเงินประมาณ 2-3 แสนล้านบาท รวมกับงบกลางและงบกลางกรณีฉุกเฉินอีก รวมแล้วประมาณ 4 แสนล้านบาท