นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ประชุมร่วมกับหัวหน้าพรรคและแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน พร้อมออกแถลงการณ์พรรค่วมฝ่ายค้าน ระบุว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นตรงกันว่าการดำเนินงานของรัฐบาลในปัจจุบันไม่สามารถนำไปสู่ทางออกของประเทศ เนื่องจากรัฐบาลมิได้ทำให้สังคมเชื่อมั่นได้ว่าตั้งใจจริงกับการแก้ไขปัญหา รวมทั้งยังใช้กฎหมายที่ทำให้ฝ่ายเห็นต่างที่เป็นคู่ขัดแย้ง รู้สึกว่ารัฐบาลใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือเพื่อกำจัดตน ซึ่งถือเป็นการทำลายบรรยากาศการร่วมมือและปรองดอง
นายสมพงษ์ กล่าวว่า รัฐบาลยังไม่เปิดใจรับฟังที่จะแสวงหาจุดร่วมเพื่อช่วยกันคลี่คลายปัญหา เท่ากับรัฐบาลปิดกั้นหนทางการแสวงหาทางออกจากความขัดแย้ง ดังนั้น ความพยายามของประธานรัฐสภาที่พยายามจะสร้างคณะกรรมการสมานฉันท์ให้เกิดขึ้น โดยที่รัฐบาลนายกรัฐมนตรีและกลุ่มผู้เห็นต่างกับรัฐบาล ซึ่งเป็นคู่ขัดแย้งโดยตรงไม่เข้าร่วม คณะกรรมการชุดนี้จึงไม่สามารถเป็นความหวังในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งได้ พรรคร่วมฝ่ายค้านจึงขอยืนยันว่าจะไม่เข้าร่วมคณะกรรมการสมานฉันท์ จนกว่ารัฐบาลและคู่กรณีความขัดแย้งทั้ง 2 ฝ่ายจะเข้าร่วม และรัฐบาลต้องแสดงให้เห็นถึงความจริงใจการสร้างบรรยากาศแห่งความปรองดอง ด้วยการยุติการคุกคาม และยุติการจับกุม คุมขังผู้เห็นต่าง ยกเลิกการตั้งข้อหากับผู้ชุมนุม อย่างขาดหลักแห่งความยุติธรรม ต้องเริ่มต้นที่รัฐบาล มีความเป็นธรรมและแสดงออกถึงความจริงใจ เพราะเห็นว่ามีการใช้ความไม่เป็นธรรมจับกุมผู้ที่เห็นต่าง ซึ่งหากยังไม่มี 3 สิ่งนี้การปรองดองด็คงไม่เกิดขึ้น
นายสมพงษ์ กล่าวว่า แนวทางแก้ไขวิกฤตครั้งนี้ที่เหมาะสมที่สุด คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย ซึ่งถือเป็นกุญแจดอกสำคัญของการแก้ไขปัญหา รัฐบาลต้องทำให้สังคมยอมรับว่ามีความตั้งใจและจริงใจที่จะสร้างความเป็นประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง เพราะความเป็นประชาธิปไตยคือกลไกสำคัญที่ทุกฝ่ายจะยอมรับ และสร้างให้เกิดความเชื่อมั่น และคือหนทางสำคัญในการคลี่คลายทุกปัญหาของสังคมไทย โดยรัฐบาลควรแสดงความจริงใจเร่งหาวิธีแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นอำนาจของ ส.ว.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นประเด็นที่เป็นปัญหาให้มีผลบังคับใช้โดยเร็วที่สุด เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ และยอมรับให้เกิดกระบวนการเลือกส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนทั้งหมด เพื่อพิสูจน์ให้ประชาชนเชื่อใจว่า ไม่ต้องการสืบทอดอำนาจ และต้องการถอยออกจากอำนาจอย่างแท้จริง เพื่อให้ประชาชนตัดสินใจกำหนดกฎกติกาให้เป็นประชาธิปไตย เพื่ออนาคตด้วยมือของประชาชนเอง